SET บ่ายลุ้นรีบาวด์ช้อน 3 หุ้นปันผลเด่น

SET ปิดเช้าปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคจากแรงขายทำไร แต่ดัชนีรีบาวด์ได้หลังมีแรงซื้อกลับเข้ามา ปัจจัยที่สำคัญช่วงนี้ คือปัญหาหนี้กรีซ และประกาศแถลงการณ์ของ FED ในศุกร์นี้ ช่วงบ่ายดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวมีโอกาสลุ้นรีบาวด์ โดยมีแนวรับ 1,460 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (9 ก.ค.) ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่โดยรวมติดลบจากแรงขายทำกำไร แต่ดัชนีสามารถรีบาวด์ขึ้นได้หลังมีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงของการเก็งกำไรช่วงสั้น ทั้งนี้ ยังต้องติดตามปัญหากรีซในวันอาทิตย์นี้ รวมถึงการแถลงการณ์ของ FED ในวันศุกร์นี้ ส่วนปัจจัยบ้านเราต้องจับตาผลประกอบกลุ่มแบงก์ในสัปดาห์หน้าว่าจะเป็นไปตามคาดหรือไม่

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัว แต่มีโอกาสรีบาวด์ได้ โดยต้องจับตาตลาดหุ้นในยุโรปที่จะเปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณล่วงหน้าเรื่องของกรีซได้ ทั้งนี้ให้แนวรับ 1,460 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480 จุด ขณะที่กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะสามารถ Outperform ตลาดระยะสั้นได้แก่ กลุ่มหุ้นปันผลสูง อย่าง INTUCH ADVANC และ TRUEIF

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) เปิดเผยถึง ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่โดยรวมติดลบ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนแต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้เห็นว่าดัชนีมีการรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้างแม้ว่าจะยังอยู่ในแดนลบก็ตามซึ่งเป็นลักษณะของการเก็งกำไร

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยยังเฝ้าจับตาเรื่องของกรีซ แม้ว่าจะซึมซับไปแล้ว แต่ถ้าการเจรจาของกรีซกับเจ้าหนี้สามารถลงเอยกันได้ก็จะทำให้เกิดการรีบาวน์ได้ ส่วนเรื่องของจีนที่ออกมาในเชิงลบ จาก impact ที่จีนมีการเพิ่มเกณฑ์การวางหลักประกันมาร์จิ้น (margin requirement) แต่ในช่วงหลังจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจจีนมีการเติบโตในอัตราที่ช้าลง ดังนั้นภาพของจีนเป็นอะไรที่ยังต้องรอดูอยู่ อย่างไรก็ตาม วันศุกร์นี้ให้ติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐ และต้องรอดูว่าจะมีการพูดเรื่องของดอกเบี้ยด้วยหรือเปล่า

สำหรับปัจจัยในประเทศในเรื่องของการคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์จะเห็นได้ว่าตลาดตอบรับไปแล้ว และสัปดาห์หน้าเริ่มทยอยประกาศงบกลุ่มแบงก์ออกมา ซึ่งต้องรอดูว่าเป็นอย่างที่คาดการณ์กันไว้หรือไม่

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวแต่มีโอกาสที่จะรีบาวน์ได้บ้าง ขณะที่ต้องจับตาตลาดในยุโรปที่จะเปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณล่วงหน้าที่มาจากเรื่องของกรีซก็ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,460 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480 จุด

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.ค.) ว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ปิดลบผันผวนในกรอบแคบ โดยภาพรวมฝั่งเอเชียบวกเล็กน้อย หลังมีความกังวลเกี่ยวกับการดิ่งลงของหุ้นจีนกว่า 30%(3W) จากสถานการณ์ฟองสบู่ในตลาดหุ้น โดยล่าสุดมีมาตรการห้ามบรรดาผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารของหลายบริษัทเทขายหุ้นเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อป้องกันความผันผวนของตลาดจีนที่กำลังดิ่งตกแรงอย่างหนัก

และคุ้มครองสิทธิในการซื้อหุ้นอย่างเท่าเทียมของนักลงทุนรายอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ แต่ยุโรปปิดบวกจากความชัดเจนว่า กรีซได้ยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการเพื่อขอรับเงินกู้ระยะ 3 ปีจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) แล้วเมื่อวานนี้ และยืนยันว่าจะดำเนินการตามเงื่อนไขบางประการที่เจ้าหนี้เรียกร้องในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือ และมีรายงานว่าธนาคารต่างๆ ของกรีซจะปิดทำการต่อไปจนถึงวันจันทร์

แนวโน้มตลาดและหุ้นที่น่าสนใจภาคบ่าย หากดัชนีหุ้นไทยสามารถยืนตัวบนแนวรับสำคัญที่ 1,470 จุดได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบกรอบบนที่ 1,477 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.ค.) ว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังหลุดแนวรับสำคัญ 1,470 จุด ลงไปทดสอบ 1,460 จุด และสามารถรีบาวด์กลับมายืนเหนือ 1,470 จุดได้อีกครั้งก่อนปิดตลาดภาคเช้า

ขณะที่ นักลงทุนยังอยู่ในสถานะ Risk-Off ตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. ทั้งจากปัญหาหนี้กรีซและการปรับลดลงแรงของตลาดหุ้นจีน และฮ่องกงกดดัน Sentiment ตลาดทั่วโลก ยังคงแนะนำ “Wait & See” จนกว่าจะมีสัญญาณกลับตัวทางเทคนิค (สามารถยืนเหนือ 1,485 จุดได้อย่างมั่นคง)

ทั้งนี้ ยังมองการปรับตัวลงเป็นโอกาสในการ “ซื้อ” แต่เนื่องจาก Sentiment ตลาดหุ้นโลกอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้มากไม่ว่าจะเป็นปัญหากรีซ หรือการปรับลดลงของตลาดหุ้นจีน ทำให้เราแนะนำ “Wait & See” หรือ “Trading” หุ้นเด่นทางเทคนิคระยะสั้นไปก่อน ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ยังคาดว่าจะสามารถ Outperform ตลาดระยะสั้นได้แก่ กลุ่มหุ้นปันผลสูง อย่าง INTUCH ADVANC และ TRUEIF

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,387.17 ล้านบาท ปิดที่ 337.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,010.45 ล้านบาท ปิดที่ 101.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 799.94 ล้านบาท ปิดที่ 24.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 727.91 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง                                                     

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 701.27 ล้านบาท ปิดที่ 182.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button