สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ก.ค. 2562

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอปเปิล หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล ขณะที่หุ้นโบอิ้งดิ่งลงหลังจากสายการบินของซาอุดีอาระเบียได้ยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max นอกจากนี้ ตลาดยังเผชิญปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,806.14 จุด ลดลง 115.98 จุด หรือ -0.43% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,975.95 จุด ลดลง 14.46 จุด หรือ -0.48% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,098.38 จุด ลดลง 63.41 จุด หรือ -0.78%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.)  โดยหุ้นกลุ่มธนาคารถ่วงตลาดลง หลังหุ้นดอยซ์ แบงก์ร่วงลง แม้ธนาคารทำการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ นอกจากนี้ การที่นักลงทุนหมดหวังที่จะเห็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากในเดือนนี้ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคที่แข็งแกร่งเกินคาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ได้ถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.05% ปิดที่ 389.90 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,589.19 จุด ลดลง 4.52 จุด หรือ -0.08% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,543.51 จุด ลดลง 25.02 จุด หรือ -0.20%  และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,549.27 จุด ลดลง 3.87 จุด หรือ -0.05%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) โดยการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนหมดหวังที่จะเห็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากในเดือนนี้ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเกินคาด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,549.27 จุด ลดลง 3.87 จุด หรือ -0.05%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าได้สร้างแรงกดดันต่อตลาด อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งได้เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเมื่อคืนนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,400 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.9 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 15.05 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9.00 ดอลลาร์ หรือ 1.11% ปิดที่ 820.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 6 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,558.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังจากอิหร่านได้เสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมสูงกว่าเพดานที่ระบุไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 57.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 64.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมิ.ย.

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.72 เยน จากระดับ 108.57 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9939 ฟรังก์ จากระดับ 0.9919 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3096 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3083 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1211 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1221 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2512 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2526 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6971 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6979 ดอลลาร์สหรัฐ