สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มขนส่ง หลังจากบริษัทซีเอสเอ็กซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางรถไฟรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ “Beige Book” ซึ่งระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,219.85 จุด ลดลง 115.78 จุด หรือ -0.42% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,984.42 จุด ลดลง 19.62 จุด หรือ -0.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,185.21 จุด ลดลง 37.59 จุด หรือ -0.46%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกว่า สงครามการค้าจะลุกลามมายังทวีปยุโรป ขณะที่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มน้ำมันถ่วงตลาดลงด้วย แต่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงสนับสนุนความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.37% ปิดที่ 387.66 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,571.71 จุด ลดลง 42.67 จุด หรือ -0.76% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,341.03 จุด ลดลง 89.94 จุด หรือ -0.72% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,535.46 จุด ลดลง 41.74 จุด หรือ -0.55%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐขู่อีกครั้งที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ขณะที่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มน้ำมันตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงนั้น ถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,535.46 จุด ลดลง 41.74 จุด หรือ -0.55%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า การเจรจากับอิหร่านมีความคืบหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 84 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 56.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 69 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 63.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ปีนี้

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้ายังส่งผลให้นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 12.10 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,423.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2556

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 29.3 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 15.971 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 847.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 26.90 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,543.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) หลังจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ “Beige Book” ระบุว่า เศรษฐกิจขยายตัวเล็กน้อย และภาคเอกชนยังคงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.ขยายตัวสอดคล้องกับเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.09 เยน จากระดับ 108.34 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9870 ฟรังก์ จากระดับ 0.9886 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3041 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3068 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1222 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1205 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2436 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2406 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7015 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7013 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button