หุ้นรับกระตุ้นศก.

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ค่อนข้างแกว่งไซด์เวย์

แต่จะว่าไปแล้ว ก็แกว่งแบบนี้มาหลายวันทำการแล้วล่ะ

อย่างเมื่อวันพุธ (17 ก.ค.) ที่แล้วดัชนีปิด 1,718 จุด

ส่วนเมื่อวานนี้ดัชนีปิด 1,725 จุด (+0.57 จุด) หรือสรุปแล้ว ดัชนีแทบจะไม่ไปไหนเลยในรอบ 4 วันทำการ วิ่งขึ้น ๆ ลง ๆ วนเวียนไปแบบนี้

ทว่าหากดูจากกราฟแล้ว

เหมือนทรงจะไม่ค่อยดีนัก เพราะกราฟค่อย ๆ ย่อตัวลงมา

ช่วงนี้ปัจจัยบวกยังไม่มีเข้ามาเพิ่มเติม

นักลงทุนยังคงเฝ้ารอปัจจัยบวกใหม่

เช่น การประชุมธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB , การแถลงนโยบายของรัฐบาลไทย, การทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

และในสัปดาห์หน้าก็จะต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

อ้อ.. มีเรื่องการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ด้วย

ที่กำลังลุ้นว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาหรือไม่

หากปรับลด จะลดลงมาเท่าไหร่ 0.50% หรือ 0.25%

ขณะที่ตลาดคาดหวังไว้ว่า ควรจะปรับลด 0.50% และเฟดกลับส่งสัญญาณออกมาก่อนหน้านี้ว่า อาจจะแค่ 0.25%

ปัจจัยภายในตอนนี้ทุกคนพุ่งตรงไปที่การแถลงนโยบายนั่นแหละ

โดยเฉพาะลุ้นกันว่า จะมีนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ว่ากันว่า การจับตาเฝ้าดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ว่านี้นี่นะ

จะต้องออกมาแบบ “เซอร์ไพรส์” ด้วยนะ

หรือต้อง “ร้องว้าวววว” อะไรทำนองนั้นนั่นแหละ

เพราะหากไม่ว้าว ไม่แจ่ม ไม่ตื่นเต้น หรือเป็นนโยบายแบบเบสิก ๆ อะไรแบบนั้น

ตลาดก็คงไม่ได้ตอบรับมากนัก เพราะเหมือนว่าจะรับรู้ก่อนหน้านี้กันไปแล้วว่าจะทำอะไรกันบ้าง

แต่ดูเหมือนหุ้นที่จะตอบรับออกมาก่อนล่วงหน้าเลย ก็คือ กลุ่มค้าปลีกที่นำโดย CPALL BJC และ HMPRO ที่ราคาค่อย ๆ วิ่งขึ้นมาอีกครั้ง

นักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างเชื่อว่า ไม่ว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะออกมารูปแบบใด

ก็น่าจะเกี่ยวกับการกระตุ้นกำลังซื้อแน่นอน

และหุ้นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ก็คือ  ค้าปลีก

จริง ๆ แล้ว กลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็ถูกจับตาด้วยว่า จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเดินหน้าในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ

หุ้นที่แนะนำกัน คือ CK, STEC และ SEAFCO

ส่วนกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม คือ AMATA, ROJNA, WHA

มีคำถามว่าแล้วกลุ่มท่องเที่ยวล่ะ น่าสนใจไหม

ประเด็นนี้ต้องดูอีกครั้งว่า รัฐบาลจะออกมาตรการแบบไหน เพราะท่องเที่ยวตอนนี้ซบเล็กน้อย จากค่าเงินบาทแข็ง และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวด้วย

ก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งมีรายงานว่า นักลงทุนต่างชาติทิ้งหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวออกมาค่อนข้างมาก

ดู ๆ ไปแล้ว เป็นความท้าทายของรัฐบาลประยุทธ์ 2 พอสมควร