สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ส.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ส.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน และจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรกและเป็นเหตุให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,007.07 จุด ลดลง 22.45 จุด หรือ -0.09% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,883.98 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ +0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,862.83 จุด เพิ่มขึ้น 29.56 จุด หรือ +0.38%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าที่ลดลงระหว่างสหรัฐและจีน และค่าเงินหยวนทรงตัว ขณะที่ข่าวการควบรวมกิจการในธุรกิจเคมีภัณฑ์ของเยอรมนีได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.24% ปิดที่ 368.60 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,266.51 จุด เพิ่มขึ้น 31.86 จุด หรือ +0.61% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,650.15 จุด เพิ่มขึ้น 82.19 จุด หรือ +0.71% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,198.70 จุด เพิ่มขึ้น 27.01 จุด หรือ +0.38%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลง 6 วันติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าที่ลดลงระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ค่าเงินหยวนของจีนเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยสกัดกั้นไม่ให้สงครามการค้าลุกลามมากขึ้น นอกจากนี้ การที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,198.70 จุด เพิ่มขึ้น 27.01 จุด หรือ +0.38%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 4.7% เมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 2.54 ดอลลาร์ หรือ 4.7% ปิดที่ 51.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ดิ่งลง 2.71 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 56.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มแรงดึงดูดให้กับทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 35.40 ดอลลาร์ หรือ 2.39% ปิดที่ 1,519.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 75.1 เซนต์ หรือ 4.57% ปิดที่ 17.196 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 17.80 ดอลลาร์ หรือ 2.09% ปิดที่ 871.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 26.70 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,410.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่อังกฤษอาจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีข้อตกลงในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2143 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2152 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1214 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1200 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6767 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6756 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.09 เยน จากระดับ 106.53 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9736 ฟรังก์ จากระดับ 0.9768 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3314 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3279 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button