โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” EA มองกำไรปี 62 โตสนั่น 6 พันลบ.เคาะเป้าสูง 62 บ. ดันอัพไซด์พุ่ง 29%

โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" EA มองกำไรปี 62 โตสนั่น 6 พันลบ.เคาะเป้าสูง 62 บ. ดันอัพไซด์พุ่ง 29%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA โดยนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้น EA ในราคาเป้าหมาย 62 บาท/หุ้น โดยมองกำไรปกติในช่วงครึ่งปีแรกเป็น 2,477.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3% จากปีก่อน คิดเป็น 42% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ 6,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.9% จากปีก่อน

ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังจะเร่งตัวขึ้นเพราะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเต็มไตรมาส สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามีคำสั่งซื้อแล้ว 4.5 พันคัน โรงงานจะสร้างเสร็จปลายปีและเริ่มส่งมอบต้นปีหน้า

ขณะที่สถานีชาร์ตแบตเตอรี่รถไฟฟ้าได้ร่วมมือกับพันธมิตรติดตั้งแล้วราว 800 แห่ง ส่วน Battery storage คาดสร้างโรงงานแล้วเสร็จปลายปีและเริ่มจำหน่ายในไตรมาส 2/63 Green diesel และ PCM จะเริ่มจำหน่ายต้นปีหน้า โดยฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการและราคาเป้าหมาย 62 บาท (DCF) คงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

ทั้งนี้ ด้านนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้และในปี 63 ว่า บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ที่ 9,200 ล้านบาท โดยเน้นน้ำหนักไปที่โครงการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนเฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 1 GWh ด้วยงบประมาณการลงทุน 5,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการลงทุนสร้างโรงผลิตกรีนดีเซล และพีซีเอ็มที่เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มขั้นสูงและเป็นลิขสิทธิ์ของกลุ่มบริษัทเอง สำหรับทำตลาดส่งออกและทดแทนการนำเข้า

“เราต่อยอดธุรกิจใหม่โดยใช้แบตเตอรี่เป็นพื้นฐาน ซึ่งเราถือเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย ที่เข้ามารุกธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและเรือไฟฟ้า ที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทย ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ของกลุ่ม EA ร่วมกับชิ้นส่วนอื่นๆ ที่เป็นของไทยทั้งหมด…มั่นใจว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้จะเป็น New S-curve ของเราที่จะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรของบริษัทฯ ในปี 2563 นิวไฮต่อเนื่อง” นายอมร กล่าว

สำหรับความคืบหน้าในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของคนไทย 100% ภายใต้ยี่ห้อ MINE Mobility นั้น อยู่ระหว่างสร้างโรงงานประกอบ นำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรการผลิต และจัดเตรียมชิ้นส่วนต่างๆ ไว้ โดยตามแผน บริษัทฯจะทยอยส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าที่มียอดจองเข้ามาแล้วกว่า 4,500 คัน ได้ในต้นปี 2563

ขณะที่เรือไฟฟ้านั้น บริษัทฯได้จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ “บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด” (E Smart Transport Co., Ltd.)  เพื่อดำเนินธุรกิจ เรือโดยสารและเรือท่องเที่ยว เพื่อเตรียมการจะเปิดให้บริการรับส่งผู้โดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาจากท่าน้ำนนทบุรี ไปยังท่าน้ำวัดราชสิงขร ระยะทางรวม 20 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นการเดินทางที่ใช้เวลาไม่ถึง 40 นาที อยู่ระหว่างการผลิตเรือนำร่อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้และเตรียมเปิดทดลองใช้ในปลายปีอย่างแน่นอน ส่วนที่เหลือจะทยอยผลิตเพื่อนำมาให้บริการตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า ด้วยงบประมาณรวม 1 พันล้านบาท

ด้านนางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร EA คาดว่า ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากการรับรู้รายได้การจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมเข้ามาครบ 664 เมกะวัตต์ ตามเป้าหมาย ขณะที่ก็มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าพลังงานลม เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนและมีพายุเข้ามาค่อนข้างมาก ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มขึ้น ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ น่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากเป็นช่วงของโลว์ซีซั่น

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนออกหุ้นกู้มูลค่า 3,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี ดอกเบี้ยราว 3%  ซึ่งจะขายให้กับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เพื่อใช้คืนหนี้เงินกู้เดิม ที่ปัจจุบันมีอยู่ 8,000 ล้านบาท ซึ่งน่าจะส่งผลต่อต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทฯ ลดลงราว 1% คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในเดือนต.ค.นี้

สำหรับงบงบลงทุนปี 62-63 ที่ 9,200 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้ในโครงการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนเฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 1 กิโลวัตต์ชั่วโมง วางงบลงทุนที่ 5,000 ล้านบาท, ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ประมาณ 200 ล้านบาท, ธุรกิจเรือโดยสารไฟฟ้าประมาณ 1,000 ล้านบาท, ธุรกิจ EV Charging ประมาณ 500 ล้านบาท, ธุรกิจไบโอดีเซล 1,000 ล้านบาท และอื่นๆอีก 1,500 ล้านบาท

“บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หรือมาที่ 15,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่  12,656.30 ล้านบาท  โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 6,904.24 ล้านบาท จากรับรู้รายได้ COD เข้ามาครบ 664 เมกะวัตต์ ตามเป้าหมาย และยังคงเป้ารายได้ปี 63 จะเติบโตแตะ 20,000 ล้านบาท จากทุกธุรกิจที่จะรับรู้รายได้เข้ามา” นางออมสิน กล่าว

 

Back to top button