หุ้นแบงก์ ลงพอหรือยัง..?

หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ตอนนี้ดูไม่จืดเลยล่ะ


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ตอนนี้ดูไม่จืดเลยล่ะ

จากรูปภาพ (กราฟ) จะเห็นว่า ดัชนีหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับร่วงลงมาโดยตลอดนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2562 เป็นต้นมา

หรือเป็นช่วงที่กลุ่มแบงก์เริ่มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้  MOR และ MRR นั่นแหละ

ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับลงมาขนาดนี้

มีนัยสำคัญว่า กลุ่มนักลงทุนสถาบัน และกองทุนต่าง ๆ น่าจะมีการ “ปรับพอร์ต” ขายหุ้นกันออกมา และน่าจะขายในปริมาณค่อนข้างมากด้วย

หรืออาจจะเป็นการค่อย ๆ หรือทยอยขาย

ส่วนกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ก็น่าจะปรับพอร์ตขายหุ้นกันออกมาด้วยเช่นกัน

เพราะหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ลงมามากขนาดนี้นั้น ลำพังนักลงทุย “รายย่อย” หากขายออกมา ก็ไม่น่าจะกดดัชนีหุ้นกลุ่มแบงก์ได้มากขนาดนี้อย่างแน่นอน

ดังนั้น จะว่าไปแล้ว หุ้นกลุ่มแบงก์เกิดการ “แพนิก” ก็ไม่น่าจะใช่

เพราะกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และต่างชาตินั้น

พวกนี้ไม่ได้แพนิกอะไรกันง่าย ๆ

เพราะกว่าจะซื้อหุ้นแต่ละตัว หรือเมื่อจะขายหุ้นออกมา ต้องดูทั้ง Fundamental ดูแนวโน้ม ฯลฯ เข้ามาประกอบ

ส่วนรายย่อยนั้น ก็อาจจะมีการขายตามออกมาหลังเห็นราคาลงมาค่อนข้างมาก

หรือบางจังหวะอาจจะมีการซื้อเล่นรอบกันไป หากสัญญาณเทคนิคบางช่วงบ่งชี้ว่า ราคาหุ้น ณ ขณะนั้น น่าจะ Technical rebound ได้

หรือเป็นช่วงที่หุ้นกำลังขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล

ทว่าหลังจากนั้น ก็จะขายออกมา

อย่างเช่นหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวในขณะนี้ หลังขึ้น XD เสร็จ ก็ยกธงขาวกันทั้งหมด

เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิด +16.39 จุด ดัชนีขึ้นมาอยู่ที่ 1,658.64 จุด

แต่เมื่อเข้าไปดูหุ้นในกลุ่มแบงก์พบว่า มีบวกอยู่เพียง 2 ตัวเท่านั้นคือ TMB ที่มีปัจจัยหนุนจากการควบรวมกับ TBANK

และก็หุ้น LHFG

ส่วนหุ้นตัวอื่น ๆ ส่วนใหญ่ปิดตลาดในแดนลบ เช่น BBL SCB KKP ไม่เว้นแม้กระทั่ง แบงก์กสิกรไทย KBANK ที่ปรับลงกับเขาด้วย ทั้งที่จะขึ้น XD วันที่ 11 ก.ย.นี้ เพื่อจ่ายปันผล 0.50 บาท

ส่วนกรุงไทย KTB ล่าสุดราคาหุ้นลงมาอยู่ที่ 16.70 บาท ต่ำสุดในรอบ 3 ปี!!!!!

จะว่าไปแล้วกำไรของหุ้นกลุ่มแบงก์ไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้ ไม่ได้กะโหลกกะลาอะไรเลย

แต่เข้าใจว่านักลงทุนกังวลกับแนวโน้มไตรมาส 3 แล 4 อาจจะออกมาไม่ดี เพราะในมุมมองของบรรดานักวิเคราะห์นั้น ต่างเตรียมที่จะประมาณการกำไรแบบ Downside หรือปรับลงมาอีก

เหตุผลก็เพราว่า ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับลงมาแล้ว 1 ครั้งนั้น

มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องปรับลงอีก 1 ครั้ง (รวมเป็น 2 ครั้งในปีนี้) จากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นสัญญาณเบื้องต้นว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวนานขึ้น และอาจจะไปกดดันกำไรเพราะ NIM มันแคบลง

ส่วนเงินฝาก เริ่มมีการทยอยปรับลงมาบ้าง เช่น  KBANK และที่จะตามมาคือ BBL

ล่าสุด สินเชื่อเดือนกรกฎาคม 2562

ตัวเลขออกมาต่างชะลอตัวกันหมด
สินเชื่อรวมขยายตัวแค่ 0.2%  จากเดือนก่อนหน้านี้ และ +0.5% จากสิ้นปี 2561 และ +3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สินเชื่อนั้น คือตัวเลขสำคัญที่จะเข้ามาวัดอัตราการเติบโตของธุรกิจธนาคาร เพราะหากปล่อยสินเชื่อได้น้อยนั่นย่อมหมายถึงโอกาสที่จะมีรายได้จากสินเชื่อปรับลดน้อยถอยลงตามไปด้วย

ส่วนตัวเลขค่าฟี นั่นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละธนาคารว่าจะหามาเพื่อชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลงได้แค่ไหน

แม้หุ้นกลุ่มแบงก์จะปรับตัวลง

แต่เท่าที่ดูความเห็นนักวิเคราะห์ก็ไม่ค่อยมีใครแนะนำขายกันมากนัก

ส่วนใหญ่แนะนำ “ถือ” และบางตัวแนะ “ซื้อ”

กลับมาสู่คำถามที่ว่า แล้วหุ้นแบงก์? ลงมาพอหรือยังล่ะ สะท้อนปัจจัยลบไปหมดแล้วหรือไม่

เรื่องนี้คำตอบอยู่ที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันนั่นแหละ

พอใจกับราคา ณ ปัจจุบันหรือยัง

Back to top button