สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ก.ย. 2562

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่สูงเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,219.52 จุด เพิ่มขึ้น 37.07 จุด หรือ +0.14% ขณะที่ ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,007.39 จุด ลดลง 2.18 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่  8,176.71 จุด ลดลง 17.75 จุด หรือ -0.22%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มเหมืองแร่ และ กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.34% ปิดที่ 391.79 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,655.46 จุด เพิ่มขึ้น 12.60 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,468.53 จุด เพิ่มขึ้น 58.28 จุด หรือ +0.47% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,367.46 จุด เพิ่มขึ้น 22.79 จุด หรือ +0.31%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นที่พึ่งพาอุปสงค์ในประเทศ หลังจากมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า อังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit) แต่เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,367.46 จุด เพิ่มขึ้น 22.79 จุด หรือ +0.31%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน แม้มีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 54.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 60.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ได้ดึงดูดนักลงทุนออกจากตลาดทองซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 7.9 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,499.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 60.8 เซนต์ หรือ 3.34% ปิดที่ 17.569 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 952.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,600.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า อังกฤษจะสามารถแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยมีการทำข้อตกลง

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.06% สู่ระดับ 98.2532

เงินปอนด์แข็งขึ้นสู่ระดับ 1.2479 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2345 ดอลลาร์ และ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6881 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6866 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1069 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1073 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.13 เยน จากระดับ 108.15 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9910 ฟรังก์ จากระดับ 0.9905 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3281 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3211 ดอลลาร์แคนาดา