สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 ก.ย. 2562

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) หลังจากนักลงทุนซึมซับข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นไมโครซอฟท์ รวมทั้งมุมมองบวกที่มีต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,094.79 จุด ลดลง 52.29 จุด หรือ -0.19% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,006.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.06 จุด หรือ +0.00% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,182.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.49 จุด หรือ +0.07%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซนที่ร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.61% ปิดที่ 391.80 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,659.08 จุด เพิ่มขึ้น 38.44 จุด หรือ +0.68%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,457.70 จุด เพิ่มขึ้น 68.08 จุด หรือ +0.55% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,356.42 จุด เพิ่มขึ้น 42.37 จุด หรือ  +0.58%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่จำเป็นที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,356.42 จุด เพิ่มขึ้น 42.37 จุด หรือ +0.58%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดจะปรับตัวลดลง เนื่องจากการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 58.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 64.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,506.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.5 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 17.884 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 942.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 30.40 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,612.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านมือสองและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยมีการทำข้อตกลงกับบรรดาผู้นำสหภาพยุโรป

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.98 เยน จากระดับ 108.35 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9919 ฟรังก์ จากระดับ 0.9971 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3256 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3295 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1053 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1031 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2536 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2463 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6799 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6824 ดอลลาร์สหรัฐ