เปิดข้อมูลการเงิน 3 หุ้น “ไอพีโอ” ต่อคิวเทรดเดือนตุลาคม!

เปิดข้อมูลการเงิน 3 หุ้น “ไอพีโอ” ต่อคิวเทรดเดือนตุลาคม!


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนน้องใหม่ที่ทำการเสนอขายหุ้นหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และมีกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ พบว่ามี 3 บริษัทจดทะเบียนที่ได้ทำการเสนอขายหุ้น IPO ภายในเดือนต.ค. และจะทำการเข้าซื้อขายภายในเดือนนี้ ได้แก่

อันดับที่ 1 บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 146 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 26.1% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด กำหนดราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 2.69 บาท โดยมี บล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีกำหนดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ในวันที่  8 ตุลาคม 2562

โดย INSET เป็นผู้ประกอบการโครงสร้างพื้นฐานในด้านโทรคมนาคม ขณะที่โครงสร้างรายได้หลักมาจากธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 88% ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม 10%งานซ่อมบำรุงและบริการ อื่นๆ 2%

 

อันดับที่ 2 บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 8,000 ล้านหุ้น ในราคา 6 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย. 2562 และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. (SET) กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงาน และสาธารณูปโภค ในวันที่ 10 ต.ค. 2562 โดยมี บล.บัวหลวง, บล.ภัทร และ บล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ แอสเสท เวิรด์ คอร์ป ประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทเป็นทั้งเจ้าของและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building) ทั้งหมด 29 แห่ง

สำหรับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 11 มิ.ย.62 ประกอบด้วยกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ซึ่งรวมถึงกลุ่มบริษัท ทีซีซี กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด ถือหุ้นรวมกัน 24,000,000,000 หุ้น คิดเป็น 100% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 75%

 

อันดับที่ 3 บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW กำหนดราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 2.38 บาท/หุ้น กำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 8-10 ต.ค.62  คาดนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 18 ต.ค.นี้ ด้วยจำนวนหุ้นที่ IPO ไม่เกิน 160,000,000 หุ้น คิดเป็น 26.67% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยมีบริษัท หลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

อนึ่ง บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายกลุ่มสินค้าดิจิตอลไลฟ์สไตล์ กลุ่มสินค้าโทรศัพท์มือถือ กลุ่มสินค้าคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต รวมไปถึงสินค้าแบรนด์ Apple ผ่านร้านค้าภายใต้การบริหารงานของบริษัท ได้แก่ ร้าน .life (ดอทไลฟ์) ร้าน iStudio  by copperwired ร้าน iBeat by copperwired  ร้าน Ai_ และร้าน iServe

โดย “ผู้สื่อข่าว” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลตัวเลขสำคัญทางการเงินของทั้ง 3 บริษัทที่กำลังจะเข้าซื้อขายมาพอสังเขป ดังนี้

(คลิกเพื่อขยายตารางแสดงผล)

*อัตราส่วนสภาพคล่องหากต่ำกว่า 1 เท่าแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนมากกว่าสินทรัพย์สินหมุนเวียนอาจมีปัญหาชำระหนี้ระยะสั้น

*D/E ratio แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในการชำระหนี้คืน หาก D/E สูงเท่ากับว่าบริษัทมีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากหนี้สินที่มากทำให้บริษัทมีภาระที่จะต้องชำระดอกเบี้ยทุกงวด

จากตารางข้างต้นจะเห็นได้ว่า บริษัทที่มีการเสนอขาย IPO สูงสุดคือ AWC ซึ่งมีการเสนอขายทั้งหมด 8 พันล้านหุ้น ขณะที่บริษัทที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุดคือ AWC อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 48.93% ขณะที่ INSET มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเป็นอันดับที่ 2 ที่ระดับ 15.76% และบริษัท CPW อัตรากำไรขั้นต้น 14.6% ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรสูง

ขณะที่ AWC เป็นบริษัทมี่มีอัตราส่วนสภาพคล่องต่ำที่สุดคือ 0.40 เท่า ,INSET ที่ 1.85 เท่า และ CPW ที่ 1.28 เท่า แสดงให้เห็นว่า CPW เป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน สูงที่สุดใน 3 หุ้น IPO ด้าน D/E Ratio บริษัท INSET มีอัตราส่วน D/E เหมาะสมที่สุดคือ 1.01 เท่า แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระดอกเบี้ยน้อย มีความสามารถที่จะกู้ยืมหนี้จากสถาบันการเงินได้ง่าย

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button