6 ปีที่ผ่านเลย

การประกาศแจ้งหยุดประกอบธุรกิจซื้อขายผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ-อุปกรณ์ประปา ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2562 ของบริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN ไม่ใช่อะไรอื่น มันคือการตอกประตูปิดฝาโลงยอมแพ้ในธุรกิจเดิมที่ทำกันมาหลายทศวรรษ ที่ถือว่าเป็นธุรกิจตะวันตกดิน


พลวัตปี 2019 : วิษณุ โชลิตกุล

การประกาศแจ้งหยุดประกอบธุรกิจซื้อขายผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ-อุปกรณ์ประปา ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2562 ของบริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN ไม่ใช่อะไรอื่น มันคือการตอกประตูปิดฝาโลงยอมแพ้ในธุรกิจเดิมที่ทำกันมาหลายทศวรรษ ที่ถือว่าเป็นธุรกิจตะวันตกดิน

เพียงแต่การที่ยุบเลิกธุรกิจเดิมไปสู่เส้นทางใหม่ โดยกลุ่มผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่เพื่อทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และน้ำมันปาล์มดิบ ทำให้เห็นถึงความพยายามต่ออายุของ OCEAN (ซึ่งหนีไม่พ้นอนาคตต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เอาเคล็ด) ออกไปให้ยาวนาน และโอกาสสำหรับการฟื้นคืนกิจการจะทำได้หรือไม่ ต้องผ่านบททดสอบในภายหน้า

นับตั้งแต่ปี 2556 ที่ OCEAN ซึ่งมี นายอุชัย วิไลเลิศโภคา และครอบครัว ก่อตั้ง บริหาร และถือครองหุ้นใหญ่ แต่งตัวเข้าระดมทุนในตลาดฯ ผลประกอบการดีในธุรกิจซื้อขายผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ-อุปกรณ์ประปาเฉพาะ 2 ปีแรกเท่านั้น ที่เหลือย่ำแย่ต่อเนื่อง ล่าสุดสิ้นไตรมาสสองปีนี้ มีขาดทุนสะสมประมาณ 150 ล้านบาท

เหตุผลหลักเข้าใจกันได้ดี เพราะคุณภาพในการแข่งขันถดถอยลงรุนแรง ทั้งในแง่ส่วนต่างทางการตลาดและแบรนด์สินค้า

ความจริงแล้วธุรกิจซื้อขายผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ-อุปกรณ์ประปา ย่ำแย่มานานกว่า 6 ปี เพราะนับแต่เข้าตลาดมา นายอุชัยพยายามแสวงหาแหล่งรายได้ทดแทนมาตลอดแต่ช้าเกินไป จนท้ายสุดต้องพึ่งพาหาทางออกด้วยวิศวกรรมการเงินเพื่อหนีตาย

ปี 2560 กลุ่มนายอุชัยส่งสัญญาณยกธงขาว ด้วยการขายหุ้นให้กลุ่มรับเหมาก่อสร้างเข้าถือหุ้นที่ OCEAN บางส่วน โดยอ้างเหตุผลสวยหรูตามสูตร แต่ยังไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องทำให้ OCEAN เพิ่มทุนครั้งใหญ่ เปิดทางกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม ตระกูล ไตรตระกูลชัย เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน ด้วยการเทกโอเวอร์กันอย่างง่าย ๆ

กลุ่มวิไลเลิศโภคา หายชื่อจากรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ มีเฉพาะนายอุชัยที่นั่งเป็นพระอันดับหุ่นเชิด จนถึงเวลาขอเกษียณตนเอง เมื่อเดือนกันยายนปีนี้เอง

2 กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ของ OCEAN ใช้ความพยายามสร้างอนาคตครั้งใหม่ให้กิจการใน 2 ธุรกิจตามถนัดและสามารถสร้างรายได้กลับมาได้มากพอสมควร แถมยังฟื้นคืนมามีกำไรสุทธิได้ แม้จะบางเบามาก

เหตุผลหลักเพราะกิจการยังคงถูกถ่วงด้วย อดีตที่เป็นฝันร้าย ดังที่มติบอร์ดยอมรับว่า หลังจากที่ได้หยุดธุรกิจผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์กลุ่มชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ และจำหน่ายทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในธุรกิจผลิตตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 62 เนื่องจากรายได้ธุรกิจผลิตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องและไม่คุ้มค่าหากดำเนินธุรกิจผลิตต่อไป แต่ยังคงประกอบธุรกิจซื้อขายต่อไป อย่างไรก็ตาม ธุรกิจซื้อขายก็มีผลการดำเนินงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและข้อจำกัด ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของธุรกิจซื้อขายลดลงจาก 94.3% ของรายได้รวมในปี 2560 เป็น 47.2% ของรายได้รวมในปี 2561 และเป็น 13.9% ของรายได้รวมในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้

นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ-สายงานธุรกิจสุขภัณฑ์ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ประปาได้เกษียณอายุการทำงานตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 62 ทำให้การดำเนินการและการสื่อสารกับพนักงานจำนวนมากเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยธุรกิจซื้อขายดังกล่าวจำเป็นต้องมีพนักงานจำนวนมาก เพื่อทำหน้าที่นำเสนอสินค้าประจำจุดขายต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีก เป็นต้น โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 61 และวันที่ 30 มิ.ย. 62 บริษัท มีพนักงานในธุรกิจซื้อขายจำนวน 245 คนและ 260 คน ตามลำดับ ส่งผลให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20-25% ของรายได้ของธุรกิจซื้อขายดังกล่าว จำนวนพนักงานที่มากส่งผลให้บริษัทมีข้อจำกัดในการดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานให้ครอบคลุมและต่อเนื่อง

การตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตจึงเกิดขึ้น จะบอกว่าทำแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรืออนาคตระยะยาวก็ย่อมได้ทั้งสิ้น

มองจากมุมของกรรมการ การอนุมัติการหยุดประกอบธุรกิจซื้อขายผลิตภัณฑ์กลุ่มชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป หลังจากที่ได้หยุดธุรกิจผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์กลุ่มชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ และจำหน่ายทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในธุรกิจผลิตตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 62 เนื่องจากรายได้ธุรกิจผลิตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องและไม่คุ้มค่าหากดำเนินธุรกิจผลิตต่อไปแต่ยังคงประกอบธุรกิจซื้อขายต่อไป ถือเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ

ส่วนจะเกิดอะไรในอนาคต ต้องว่ากันอีกที

การเปลี่ยนแปลง เจ็บปวดเสมอ มากหรือน้อยเท่านั้น

กรณีของ OCEAN ซึ่งงบการเงินขี้เหร่ไม่มากนัก เพราะยังมีส่วนผู้ถือหุ้นมากกว่าหนี้ น่าจะเป็นกรณีศึกษาที่น่าติดตามพอสมควร

Back to top button