สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ต.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ต.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากข่าวเชิงลบเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐ อาทิ บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และบริษัทโบอิ้ง รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาจากจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนลังเลที่จะเข้าซื้อหุ้น แม้บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,770.20 จุด ลดลง 255.68 จุด หรือ -0.95%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,986.20 จุด ลดลง 11.75 จุด หรือ -0.39% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,089.54 จุด ลดลง 67.31 จุด หรือ -0.83%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากการคาดการณ์แนวโน้มยอดขายที่ซบเซาจากบริษัทเรโนลต์และบริษัทดานอนของฝรั่งเศส ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การอภิปรายของรัฐสภาอังกฤษในวันเสาร์นี้ว่าจะรับรองข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ฉบับใหม่หรือไม่

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.32% ปิดที่ 391.84 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,636.25 จุด ลดลง 36.81 จุด หรือ -0.65%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,633.60 จุด ลดลง 21.35 จุด หรือ -0.17% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.57 จุด ลดลง 31.75 จุด หรือ -0.44%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการอภิปรายของรัฐสภาอังกฤษในวันเสาร์นี้สำหรับข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่การร่วงลงของหุ้นอินเตอร์คอนติเนนทัล โฮเทลส์ กรุ๊ป ถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.57 จุด ลดลง 31.75 จุด หรือ -0.44%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ที่ซบเซา หลังจากที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจากจีนทำให้นักลงทุนมีความวิตกครั้งใหม่ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง จะทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลง และจะส่งผลกดดันราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกว่า ความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าต่างๆ จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 59.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทองทางเทคนิค หลังจากที่ราคาทองปรับตัวขึ้นในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ และนักลงทุนยังขายทองซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.2  ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,494.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.4 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 17.578 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 895.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.10 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,717.60  ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) หลังอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.45 เยน จากระดับ 108.68 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9854 ฟรังก์ จากระดับ 0.9879 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3120 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3137 ดอลลาร์สหรัฐ

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1160 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1123 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2945 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2874 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6853 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6824 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button