ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 5 ราย ฐานปั่นหุ้น AIRA สั่งปรับ 5.59 ลบ.

ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 5 ราย ฐานปั่นหุ้น AIRA สั่งปรับ 5.59 ลบ.


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 5 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 5,592,470.84 บาท

โดยก.ล.ต.ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 7 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2558 บุคคลจำนวน 6 ราย ได้แก่ (1) นางสาวนิดา แซ่ลี้  (2) นางดารัตน์ ผาติวุฒิ (3) นายปรัชญา เกียรติกิตติกุล (4) นางสาววราภรณ์ งามเศรษฐมาศ (5) นางสาววีราวรรณ ธาราทิพย์มนต์ และ (6) นางลดา ธาราทิพย์มนต์ ได้ร่วมกันสร้างราคาหุ้น AIRA ให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยทำให้ราคาปิดเพิ่มสูงขึ้นจากหุ้นละ 3.14 บาท เป็นราคา 3.44 บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.55 และมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 13.49 ล้านหุ้น เป็น 17.17 ล้านหุ้น เพิ่มขึ้น 3.68 ล้านหุ้น คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.27

ทั้งนี้ พฤติกรรมของบุคคลทั้ง 6 รายดังกล่าวมีลักษณะเป็นการอำพรางให้บุคคลอื่นหลงผิดเกี่ยวกับสภาพการซื้อขายหุ้น AIRA อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน (57 วันทำการ) เพื่อจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าซื้อหรือขายตาม โดยแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนางสาวนิดา นางดารัตน์ นายปรัชญา และนางลดา สลับกันเข้าซื้อขาย และนางสาววราภรณ์ และนางสาววีราวรรณ ทำหน้าที่จัดการเรื่องเงินที่ใช้ในการซื้อขายหุ้น AIRA ให้กับนางสาวนิดา นางดารัตน์ และนางลดา

การกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดตามมาตรา 243 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และมาตรา 317/4(1) แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ที่แก้ไขโดยฉบับที่ 5 พ.ศ. 2559 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด 5 ราย โดยกำหนดให้นางสาวนิดาและนางดารัตน์ ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 690,884.17 บาท นายปรัชญาชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 3,210,702.50 บาท นางสาววราภรณ์และนางสาววีราวรรณชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 500,000 บาท ส่วนนางลดาให้ยุติการดำเนินการเนื่องจากเสียชีวิตแล้ว

ทั้งนี้ หากผู้กระทำความผิดทั้ง 5 ราย ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด  ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด

อนึ่ง การที่ ค.ม.พ. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดทั้ง 5 ราย เป็นเหตุให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 5 ราย เข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนด้วย ตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 3/2560 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ลงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 ซึ่งมีกรอบระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 3 ปี และ ก.ล.ต. จะพิจารณาเมื่อบุคคลดังกล่าวจะเข้าไปเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน

 

Back to top button