แรงขาย JAS เริ่มแผ่ว! เหลือลบ 1% รับข่าวผู้บริหารยันขยายธุรกิจตามแผน-ไม่ร่วมประมูล 5G

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ล่าสุด ณ เวลา 10.15 น. อยู่ที่ระดับ 4.30 บาท ปรับตัวลดลง 0.08 บาท หรือ 1.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.18 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น JAS เปิดตลาดวันนี้ราคาอยู่ที่ระดับ 4.04 จุด คิดเป็นการปรับตัวลดลง 0.34 บาท หรือ 7.76% อย่างไรก็ตามหลังเปิดตลาดได้ประมาณ 10 นาที ราคาหุ้นลดช่วงลบลงเหลือเพียง 2%

โดยเช้าวันนี้ (4 พ.ย.62) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงกรณีที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติและมุ่งเน้นขยายการให้บริการบรอดแบรนด์อินเทอร์เนตความเร็วสูง

รวมถึงการต่อยอดธุรกิจ โดย “บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน)” ได้ลงนามในสัญญา IPTV Consultancy Service Agreement กับ KT Corporation เพื่อให้ทำหน้าที่เป็น Technology Partner และ Strategic Consultant ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบริการ IPTV และ Premium Streaming Services เพื่อส่งตรงความบันเทิงที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า

นอกจากนี้ 3BB ได้เปิดตัวแพคเกจใหม่ Smart Mesh WiFi ที่ช่วยเพิ่มความครอบคลุมของสัญญาณอินเทอร์เน็ตในบ้าน ช่วยจัดการการใช้งานสำหรับการเล่นเกมส์โดยเฉพาะ และวันนี้ลูกค้าสามารถใช้ 3BB App เปลี่ยนความเร็วได้ในราคาเท่าเดิม

สำหรับการเข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (“JASIF”) นั้น บริษัทได้ดำเนินการตามแผนงานทุกประการ โดยจะจองซื้อหน่วยลงทุนตามกำหนดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง คือระหว่างวันที่ 7-13 พ.ย.62 ส่วนการประมูลคลื่น 5G นั้น บริษัทไม่มีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลแต่อย่างใด

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตรวจสอบข้อมูลกับฝ่ายนักลงทุนของ JAS ในเบื้องต้นไม่พบมีปัจจัยลบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะประเด็นคดีฟ้องร้องทางศาล

สำหรับแนวโน้มครึ่งหลังปี 2562 มีความกังวลต่อการแข่งขันรุนแรงในตลาดบรอดแบนด์จะกดดัน ARPU ลดลงจาก ครึ่งแรกปี 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 647 บาท ทำให้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 คาดผลการดำเนินงานจากธุรกิจปกติแย่ลง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการชะลอตัวของรายได้ สวนทางต้นทุนมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังขายทรัพย์สินเพิ่มเติมฯ แล้วเสร็จ

เบื้องต้นคาดว่า JAS จะมีต้นทุนดำเนินงานส่วนเพิ่มประมาณ 300-400 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าโครงข่ายฯ สุทธิกับส่วนแบ่งกำไรจาก JASIF และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงจากการคืนหนี้บางส่วน ทำให้ประมาณการกำไรปกติตั้งแต่ปี 2563 มีดาวน์ไซด์ 10-12%