พาราสาวะถี

ปลื้มปริ่มกับผลงานของความเป็นเจ้าจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่ทันไร ก็มีเรื่องชวนให้ปวดหัวเสียแล้วสำหรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเศส ส่งจดหมายผ่านสถานทูตไทยในแดนน้ำหอมมายังนายกรัฐมนตรีไทยแลนด์ ขอใช้แดนสยามเดินทางผ่านไปยังปอยเปตในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ เพื่อร่วมงานวันฉลองเอกราชกัมพูชาในวันถัดไป


อรชุน

ปลื้มปริ่มกับผลงานของความเป็นเจ้าจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่ทันไร ก็มีเรื่องชวนให้ปวดหัวเสียแล้วสำหรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเศส ส่งจดหมายผ่านสถานทูตไทยในแดนน้ำหอมมายังนายกรัฐมนตรีไทยแลนด์ ขอใช้แดนสยามเดินทางผ่านไปยังปอยเปตในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ เพื่อร่วมงานวันฉลองเอกราชกัมพูชาในวันถัดไป

งานนี้ผู้นำไทยต้องรีบยกเอามติอาเซียนมาเบรกทันควัน ย้ำจะไม่ยุ่งกิจการภายในซึ่งกันและกันและจะไม่ยอมให้ผู้ต่อต้านรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน มาใช้พื้นที่ไทยเป็นพื้นที่ในการเคลื่อนไหว คำตอบชัดเจน ขณะที่ฝั่งเขมร สมเด็จฯ ฮุน เซน ก็ส่งทหารหน่วยองครักษ์นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มาตรึงกำลังตามแนวชายแดน พร้อมกับการกวาดล้าง จับกุมฝ่ายเห็นต่าง ดังนั้น กรณีนี้จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยจึงต้องรีบปฏิเสธและย้ำถึงท่าทีที่มีต่อการร้องขอของสม รังสี โดยเร็ว

ส่วนสถานการณ์ในประเทศ มีอยู่ 2 ประเด็นสำคัญคือ การตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุไว้เป็นญัตติด่วนตั้งแต่ปลายสมัยประชุมที่แล้ว แต่สัปดาห์นี้คงยังไม่มีการพิจารณาต้องยกยอดกันไปสัปดาห์หน้า อีกเรื่องคือการที่พรรคสืบทอดอำนาจส่งสองส.ส.ปากกล้า สิระ เจนจาคะ กับ ปารีณา ไกรคุปต์ ไปนั่งเป็นกรรมาธิการป.ป.ช.ประกบ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

ยังไม่ทันได้รับการรับรองจากที่ประชุมสภาฯ แต่สองส.ส.คนดังว่าก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวอัดอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะนักการเมืองหน้าใหม่ส.ส.สมัยแรกกันสนุกปาก แต่คนที่ได้ชื่อว่าวีรบุรุษนาแกหาได้สะทกสะท้านใด ๆไม่ คงเป็นเพราะรู้ไส้รู้พุงคนทั้งคู่เป็นยังดี มิหนำซ้ำ ยังโบกมือดักกวักมือเรียกให้เข้ามาทำหน้าที่ อยู่ได้ก็ทำงานร่วมกันไป อยู่ไม่ไหวค่อยมาว่ากันอีกที ก่อนจะเกทับหากคุณสมบัติตัวเองมีปัญหา คงไม่ได้รับเลือกจากกรรมาธิการทั้งคณะให้นั่งเป็นประธาน

งานนี้ไม่มีอะไรมาก แค่ส่งคนกล้าพูดกล้าปะทะไปเบรกความระห่ำของคนชื่อเสรีพิศุทธ์เท่านั้น เพราะการปะฉะดะกับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่เป็นบุคคลห้ามแตะต้องของพรรคสืบทอดอำนาจในสภา ถึงขนาดประกาศตัดพี่ตัดน้องกันมาแล้ว ย่อมเป็นที่ครั่นคร้ามของคนพรรคสืบทอดอำนาจกันไม่น้อย ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการแยกกันตีโดยส่งสมาชิกและส.ส.ของพรรคไปยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของประธานกรรมาธิการป.ป.ช.ด้วย

หนึ่งคนคือ สนธิญา สวัสดี ที่ไปยื่นให้สอบในประเด็นที่ว่าคณะกรรมาธิการมีอำนาจในการเชิญพลเอกประยุทธ์ และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มาสอบหรือไม่ ขณะที่อีกรายคือ บุคคลผู้สถาปนาตัวเองเป็นซามูไรกฎหมาย ไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นร้องในประเด็นที่ว่าการดำเนินการของคณะกรรมาธิการโดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของส.ส.และส.ว. 2554 ขัดกับรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวนี้หรือไม่

เรียกได้ว่าใช้ทุกช่องทางในการที่จะทำให้สองผู้ยิ่งใหญ่ของขบวนการสืบทอดอำนาจ ไม่ต้องเสียศักดิ์ศรีไปให้ตัวแทนของประชาชนมานั่งซักไซ้ไล่เรียง ทั้งที่ความจริง เมื่อยืนยันในความถูกต้องของทุกอย่างที่ได้กระทำไป ก็ไม่เห็นที่จะต้องหวั่นไหวหรือหวาดกลัวอะไร ยิ่งใช้ความพยายามในลักษณะที่เป็นอยู่ ยิ่งทำให้คนมองไปในมุมของการเล่นเกมการเมืองไม่หยุดหย่อน ทั้ง ๆ ที่ตัวเองพยายามจะยัดเยียดฝ่ายตรงข้ามว่าใช้เกมการเมืองขัดขวางการปฏิบัติงานของรัฐบาล

ส่วนประเด็นว่าด้วยคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้รัฐธรรมนูญกับตำแหน่งประธานนั้น หลังพรรคประชาธิปัตย์มีมติเสนอชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นตัวแทน ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเอาจริงเอาจังในความต้องการแก้ไขของพรรคเก่าแก่ เพราะท่าทีของอดีตหัวหน้าพรรคที่ถึงขั้นยอมสละเก้าอี้ส.ส.หลังพรรคมีมติเข้าร่วมรัฐบาลสืบทอดอำนาจนั้น เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่ขบวนการสืบทอดอำนาจสร้างขึ้นมานั้น เป็นปัญหากับกระบวนการประชาธิปไตยที่พรรคตัวเองควรได้ประโยชน์อย่างแท้จริง

ขณะที่พรรคสืบทอดอำนาจก็มองเห็นแล้วว่า หากปล่อยให้คนที่แม้จะเคยได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับคณะเผด็จการยึดอำนาจมาก่อน แต่ท่าทีที่เปลี่ยนไปเพราะการถูกกระทำอย่างไม่ไว้หน้าด้วยกลไกของขบวนการสืบทอดอำนาจ จะเกิดแรงกดดันอย่างมหาศาลถ้าคนที่นั่งเป็นประธานไม่ใช่คนของพรรคตัวเอง จึงอ้างสิทธิ์ความเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล พ่วงด้วยข้ออ้างเพิ่มเติมว่า คนที่จะมานั่งหัวโต๊ะควรที่จะมีตำแหน่งส.ส.ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลแบบข้าง ๆ คู ๆ มากกว่า

คงลืมไปแล้วว่าคณะกรรมาธิการชุดนี้เป็นกรรมาธิการวิสามัญ ที่ใครก็เข้ามาเป็นได้หากได้รับการเสนอและผ่านการรับรองจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่สำคัญคือต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย อีกประการที่พรรคสืบทอดอำนาจและลิ่วล้อแสดงออกอย่างชัดแจ้งว่าหวงอำนาจคงลืมไปสนิทก็คือ การจะเลือกประธานกรรมาธิการนั้น ไม่ใช่ว่าจะล็อกตัวใครก็ได้ ท้ายที่สุดต้องไปโหวตกันในชั้นคณะกรรมาธิการที่ได้รับการแต่งตั้ง

เป็นธรรมดาของพวกที่เกรงจะเสียประโยชน์จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตัวเองได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ซึ่งก็คงไม่ต่างจากบางพรรคการเมืองที่ต้องยอมรับว่า ด้วยการออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นผลให้พรรคของตัวเองได้ที่นั่งส.ส.เข้ามาเป็นกอบเป็นกำชนิดเกินความคาดหมาย จึงประกาศอย่างไม่อายใครว่า พรรคไม่ได้มีนโยบายที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญตอนหาเสียง และมองไม่เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานแต่อย่างใด

ไม่เพียงเท่านั้น ยังอ้างต่อไปด้วยว่าคิดจะแก้กันอย่างไรอย่าลืมนึกว่ารัฐธรรมนูญได้ผ่านความเห็นชอบจากประชามติของประชาชนมาก รวมทั้งอ้างถึงเรื่องที่ไม่ควรจะนำมาเกี่ยวข้อง แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมกล้าที่จะพูดตรงนั้น ด้วยท่วงทำนองแบบนี้กระมัง ที่ทำให้ ปิยบุตร แสงกนกกุล ถึงกับบอกว่าก่อนที่จะมองไปถึงเก้าอี้ประธานกรรมาธิการเอาให้คณะกรรมาธิการชุดนี้ตั้งให้สำเร็จเสียก่อนดีกว่าไหม พอจะเข้าใจได้กับสภาพจิตใจของคนที่ถูกกระทำมาตลอดหลังเลือกตั้ง ไม่อาจไว้วางใจอะไรได้ทั้งนั้น

Back to top button