สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 พ.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 พ.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อรายงานว่า สหรัฐและจีนอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า การที่วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงนั้น อาจส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,821.09 จุด ลดลง 112.93 จุด หรือ -0.40% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,108.46 จุด ลดลง 11.72 จุด หรือ -0.38% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,526.73 จุด ลดลง 43.93 จุด หรือ -0.51%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นว่า ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐ-จีน อาจส่งผลกระทบกับการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศ หลังวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายปกป้องสิทธิมนุษยนชนในฮ่องกงอย่างเป็นเอกฉันท์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.41% ปิดที่ 403.82 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,894.03 จุด ลดลง 15.01 จุด หรือ -0.25%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,158.14 จุด ลดลง 62.98 จุด หรือ -0.48% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,262.49 จุด ลดลง 61.31 จุด หรือ -0.84%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐ-จีน จะกระทบการเจรจาการค้า หลังจากวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายสนับสนุนการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,262.49 จุด ลดลง 61.31 จุด หรือ -0.84%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนกล่าวอ้างว่าสามารถยิงสกัดเครื่องบินขับไล่ของกองกำลังซาอุดีอาระเบีย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.90 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 57.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 62.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 29-30 ต.ค. โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายงานดังกล่าว

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,474.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.3 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 17.115 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 920.00 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1741.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นปานกลางเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีมุมมองเป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.62 เยน จากระดับ 108.52 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9913 ฟรังก์ จากระดับ 0.9909 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3311 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3268 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1069 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1078 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นแตะที่ระดับ 1.2920 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2910 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6795 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6827 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button