เขื่อนแตก!

*ตลาดหุ้นท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมามีแรงขายออกมาตลอดทั้งวันจนลงไปทำจุดต่ำสุดอยู่แถว ๆ 1,580.08 จุด ลักษณะที่เกิดขึ้นทำให้ “โมนิก้า” ถึงกับต้องเอากลับไปคิดเป็นการบ้านถึงเหตุการณ์รอบด้านที่มีอยู่ขณะนี้ ว่าปัจจัยลบหรือปัจจัยบวกมีอิทธิพลต่อการซื้อขายของหุ้นมากกว่ากัน ? ซึ่งคำตอบเห็นได้จากรูปแบบของดัชนีตลอดสัปดาห์ที่แล้วทำให้เดี๊ยนหวาดระแวงอยู่ไม่น้อย ดังนั้นระยะสั้นต้องจับตาแนวรับ 1,580 จุดเอาไว้ให้มั่น เพราะหากหลุดลงไปหุ้นได้มีรูดเหมือนเขื่อนแตกแน่เจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ตลาดหุ้นท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมามีแรงขายออกมาตลอดทั้งวันจนลงไปทำจุดต่ำสุดอยู่แถว ๆ 1,580.08 จุด ลักษณะที่เกิดขึ้นทำให้ “โมนิก้า” ถึงกับต้องเอากลับไปคิดเป็นการบ้านถึงเหตุการณ์รอบด้านที่มีอยู่ขณะนี้ ว่าปัจจัยลบหรือปัจจัยบวกมีอิทธิพลต่อการซื้อขายของหุ้นมากกว่ากัน ? ซึ่งคำตอบเห็นได้จากรูปแบบของดัชนีตลอดสัปดาห์ที่แล้วทำให้เดี๊ยนหวาดระแวงอยู่ไม่น้อย ดังนั้นระยะสั้นต้องจับตาแนวรับ 1,580 จุดเอาไว้ให้มั่น เพราะหากหลุดลงไปหุ้นได้มีรูดเหมือนเขื่อนแตกแน่เจ้าค่ะ

*ช็อตต่อมาที่ “โมนิก้า” อยากให้ทุกคนกลับไปคิดในเที่ยวนี้คือการที่ดัชนีมาปิดที่ระดับ 1,590.59 จุด ลบไป 7.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.18 หมื่นล้านบาท มันจะใช่จังหวะดีดตัวคืนจริง ๆ หรือเปล่า เพราะการขึ้น-ลงของตลาดหุ้นไทยเที่ยวนี้ขึ้นอยู่กับอิทธิพลต่างประเทศ และท่าทีของตัวเลขเศรษฐกิจไทยซึ่งเป็นเรื่องเดิมที่ยังคงคุกรุ่น นักเล่นที่มักปล่อยอารมณ์ไปตามบรรยากาศการลงทุนผลสุดท้ายเลยพบกับความผิดหวังเป็นประจำ

*วันนี้ถึงไม่ต้องถามว่าหากดัชนีกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุด ได้อีกครั้งควรทำตัวแบบไหน ? เพราะรูปแบบการขยับตัวที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ยังไม่มีจุดแน่นอน ดังนั้นหุ้นที่มิตรรักแฟนคลับควรให้ความสนใจ เป็นหุ้นที่พื้นฐานดีที่ทนแรงเสียดทานไหว เพราะหุ้นเหล่านี้มีโอกาสที่เด้งกลับได้มากกว่าตัวอื่น ๆ ถือเป็นหนทางรอดให้แมงเม่าได้ใช้กันตรงตามตำราที่ทุกคนเล่าเรียนกันมาแบบเป๊ะ ๆ ยังไงล่ะเจ้าคะ

*ในรายของ SQ หลังจากเผชิญมรสุมถาโถม ล่าสุดได้จังหวะให้แสดงสีสันออกมาให้ได้เห็นด้วยการยืนบวกที่ระดับ 1.78 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 2.89% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16.43 ล้านบาท ถือเป็นออปชั่นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นเรื่องเทิร์นอะราวด์ เพราะต่อจากนี้จะได้เจอกับผลงานของจริง! แถมการฟอร์มตัวแบบนี้เป็นลักษณะที่มีโอกาสไปต่อได้ซะด้วยเจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่วิ่งปรู๊ดปร๊าดขึ้นมาจนต้องเหลียวมองอย่าง SCI และดูเหมือว่ากลุ่มนักเล่นจะกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง หุ้นเลยพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.66 จุด บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 9.21% ด้วยมูลค่า 47.60 ล้านบาท กลายเป็นหุ้นบาทกว่า ๆ ที่แรงแซงทุกโค้ง เบียดรุ่นเก๋า ๆ ตกไหล่ทางกันเป็นแถบแบบนี้ แต่แอบมีพรายกระซิบว่าระวังจะแหกโค้ง เพราะลืมผ่อนคันเร่งนะตัวเอง..อิอิอิ

*หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเป็นอีกกลุ่มที่ “โมนิก้า” ขอแวะมาพูดถึงสักนิด หลังพากันวิ่งคึกสวนภาวะตลาด ตัวที่เด็ดดวงที่สุดนาทีนี้คงหนีไม่พ้น BCH ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 17.40 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 570.64 ล้านบาท หลังปัจจัยบวกรายล้อม บรรดาเซียนหุ้นทั้งหลายต่างยกให้เป็น Top Pick ของกลุ่ม แถมเคาะเป้าสูง 21.1 บาท วันนี้ถึงมีลุ้นไปต่ออีกวันเจ้าค่ะ

*อีกรายคงเป็น VIBHA ที่นานทีปีหนจะเห็นราคากระเตื้องขึ้นมาสักครั้ง และล่าสุดก็ได้เห็นการขยับตัวขึ้นมายืนแดนบวกถึง 3 วันติดต่อกันมาปิดที่ระดับ 1.88 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.53% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24.50 ล้านบาท “โมนิก้า” ต้องขอกระซิบก่อนว่าสัญญาณทางเทคนิคของหุ้นตัวนี้กำลังไปได้ดี โดยภาพการกลับขึ้นไปทดสอบที่บริเวณ 2 บาท ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมนะเจ้าคะ

*ส่วนในรายของ ADVANC ถูกเทขายตามเพื่อน ๆ ออกมาหนักหน่วง จากอาการแพนิกขั้นรุนแรงหลังเกจิอาจารย์แถลงว่าปีหน้าจะเป็นปีลำบากลำบนของค่ายมือถือต้องลงสนามแข่งขันกันดุเดือด จนราคาดิ่งลงมาปิดที่ระดับ 212 บาท ลบไป 7 บาท หรือลงไป 3.20% มูลค่าซื้อขาย 2.76 พันล้านบาท เห็นแบบนี้คงต้องลุ้นกันเหนื่อยกว่าราคาหุ้นจะกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง

*รายที่ถูกเทจนเสียหลักอย่าง INTUCH ล่าสุดลงมาปิดที่ระดับ 58.75 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 3.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.02 พันล้านบาท เมื่อวิเคราะห์จากแง่มุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเหวี่ยงตัวลงของราคาหุ้น “โมนิก้า” พบว่า หุ้นตัวนี้แกว่งตัวฉวัดเฉวียนน่าดู แถมเมื่อหลุดจากราคา 60 บาทลงมาประกอบกับกราฟเทคนิคยังเป็นขาลงต่อเนื่อง มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ๆ ในแง่จิตวิทยาการลงทุนเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายที่ AMATA หลังจากผู้บริหารออกมายอมรับกันแบบซึ่ง ๆ หน้า ว่ายอดขายที่ดินปีนี้หดตัวเหลือเพียงแค่ 700-800 ไร่ ต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยวางเอาไว้ที่ระดับ 950 ไร่ ทำเอากูรูเรียงแถวออกมาหั่นราคาเป้ากันยกใหญ่ เหลือต่ำสุด 23.50 บาท แสดงความเป็นห่วงว่าผลงานในปีหน้ายังไหวมั้ย ? ถึงไม่แปลกใจที่จะได้เห็นราคาหุ้นที่ไหลลงมาที่ระดับ 21.20 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.11 พันล้านบาท ยังไงล่ะจ๊ะ

Back to top button