ไม่มีกฎหมาย ไม่มีความผิด

ลองวีคเอนด์ที่ผ่านมา ผมพาพนักงานข่าวหุ้นธุรกิจที่มีอายุงาน 10 ปีขึ้นไป จำนวน 24 คน  เดินทางไปเปิดหูเปิดตา ณ สาธารณรัฐตุรกี ดินแดนแห่ง 2 ทวีป คือเอเชียและยุโรป โดยมีช่องแคบบอสฟอรัสที่อิสตันบูลคั่นกลาง


ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

ลองวีคเอนด์ที่ผ่านมา ผมพาพนักงานข่าวหุ้นธุรกิจที่มีอายุงาน 10 ปีขึ้นไป จำนวน 24 คน  เดินทางไปเปิดหูเปิดตา ณ สาธารณรัฐตุรกี ดินแดนแห่ง 2 ทวีป คือเอเชียและยุโรป โดยมีช่องแคบบอสฟอรัสที่อิสตันบูลคั่นกลาง

ดินแดนแห่งนี้รับเอาอิทธิพลจากแหล่งอารยธรรมโลกทั้งกรีกโบราณ จักรวรรดิโรมันตะวันออก และออตโตมัน จึงผสมผสานปนเปกันไปทั้งศาสนาคริสต์และอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาที่คนส่วนใหญ่นับถือในปัจจุบัน

มีแหล่งมรดกโลกมากมายหลงเหลืออยู่ และที่สำคัญ ๆ พลาดไม่ได้เลยก็คือ เมืองโรมันโบราณ เฮียราโพลิส ที่เมืองปามุคคาเล่ และเมืองใต้ดิน แคปปาโดเจีย ซึ่งคริสต์ศาสนิกชนใช้เป็นที่หลบภัยจากทหารโรมัน ยุคที่ยังไม่ได้ยอมรับนับถือศาสนาคริสต์

พวกเรา ชาวข่าวหุ้นธุรกิจ มีประเพณีเบิ่งโลก เปิดวิสัยทัศน์เช่นนี้มาทุกปีแหละครับ ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ 5 แล้ว

เดี๋ยวนี้ โลกเจริญ แม้อยู่ต่างแดนก็ยังติดตามข่าวสารเมืองไทยแบบเรียลไทม์ได้ เห็นข่าวป.ป.ช.แจกรางวัลหน่วยงานระดับกรมที่มีความโปร่งใสและมีผลงานต่อต้านคอร์รัปชัน ได้แก่ แอ่น–แอน-แอ๊นกองทัพบกและกรมที่ดิน ก็รู้สึกขำ ๆ แบบขื่น ๆ

 เขตทหารห้ามเข้า ห้ามตรวจสอบ” อย่างนี้น่ะเหรือ หน่วยงานโปร่งใสและมีผลงานต่อต้านการทุจริต ส่วนกรมที่ดินน่ะเหรอ ยังคงมีปัญหาที่ป่าที่โฉนดและปัญหา “เงินใต้โต๊ะ” อยู่ อย่างนี้น่ะเหรอเป็นหน่วยงานโปร่งใส ไร้กังวลปัญหาทุจริตได้

นี่มัน “ป.ป.ช.เชิญยิ้ม” หรือ “ป.ป.ช.เปาบุ้นจิ้น” ที่สามารถจะกราบไหว้ได้กันล่ะเนี่ย เอาใจผู้มีอำนาจจนเกินงามน่าเกลียด !

มาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.ยุครัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ก็ดูจะลุกลนพยายามจะเข้าไปมีส่วนให้คุณให้โทษในภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำไม่น้อย

กรณีธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่กฎหมายพรรคการเมืองไม่ระบุว่า “เงินกู้ยืม” เป็นความผิด ระบุแต่เพียง “เงินบริจาค” เป็นความผิด

แต่กกต.ก็ลาก “เงินกู้ยืม” ให้เป็น “เงินบริจาค” เพื่อให้เข้ากับความตามมาตรา 72 พ.ร.บ.พรรคการเมืองจนได้

กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 72 ระบุ “ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง ‘รับบริจาคเงิน’ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อันใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่า ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

อาศัยอำนาจตามพ.ร.ป.มาตรา 92 กกต.สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสินยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคจำนวน 15 คนของพรรคอนาคตใหม่ได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแกนนำสำคัญของพรรคทั้งสิ้น

เรื่องนี้กกต.จะรับ “ใบสั่งการเมือง” มาหรือไม่ คงไม่อาจหยั่งรู้ได้ แต่วิญญูชนทั่วไปก็น่าจะเล็งเห็นผลได้ว่า หากเกิดการยุบพรรคอนาคตใหม่จริง ก็เหมือน “ผึ้งแตกรัง” ส.ส.ต้องหาสังกัดใหม่

พรรคที่จะได้ประโยชน์คือพรรคพลังประชารัฐฝ่ายรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ก็เลี้ยงงูเห่าและแจกกล้วยกันเป็นที่ครึกครื้นอยู่แล้ว

แต่ก็นั่นแหละ ! ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ดีว่า “เงินให้กู้ยืม” ที่มีการแจ้งกกต.โดยเปิดเผยนั้น ถูกชักลากให้มาเป็น “เงินบริจาค” ได้อย่างไร

เอาล่ะ ! เมื่อจะฝืนตีความให้ “เงินกู้ยืม” เป็น “เงินบริจาค” องค์ประกอบกฎหมายตามพ.ร.ป.มาตรา 72 กกต.ก็ต้องสืบสวนจนมีประจักษ์พยานหลักฐานชัดเจนว่า เป็นเงินไม่สุจริตโดยรู้หรือควรจะรู้ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กกต.ได้ทำขั้นตอนนี้หรือยังล่ะ ในขณะที่เจ้าของเงินคือนายธนาธรเขายืนยันว่าเป็นเงินส่วนตัวของเขาเอง หาใช่เงินจากซ่องโจรที่ไหนไม่

ช่างไม่เหมือนกับ “เงินเลี้ยงโต๊ะจีน” 600 กว่าล้านบาท ที่บัดนี้ป.ป.ช.ก็ยังสรุปผลสอบสวนไม่เสร็จเลยนะว่าใครเป็นผู้บริจาคบ้าง เป็นข้าราชการอิทธิพลหรือมาเฟียค้ายา เจ้าของบ่อนที่ไหน จะได้ก้าวสู่ขั้นตอนต่อไปในการพิสูจน์ทราบเงินบริจาคนั้น เป็นเงินสุจริตหรือไม่

ภาษิตกฎหมายที่ทั่วโลกยึดถือสืบทอดกันมา มีภาษิตบทหนึ่งว่า “ไม่มีกฎหมาย ไม่มีความผิด” ฉะนั้นกรณีไม่มีบทบัญญัติ “เงินกู้ยืม เป็นความผิด” ก็ต้องไม่ผิด

แต่กกต.พยายามยัดเยียดให้ “เงินกู้ยืม” เป็น “เงินบริจาค” นี่สิ ถือเป็นการเพิ่มเติมกฎหมายซึ่งไม่มีใครเขาทำกัน ถ้าเป็นลูกศิษย์ดร.วิษณุ เครืองามสมัยสอนวิชารัฐธรรมนูญ ก็ถือเป็นศิษย์ผ่าเหล่า คงจะสอบตกได้ F แน่นอน (เดี๋ยวนี้เป็น “เนติบริการ” คงเปลี่ยนไปแล้ว)

อนึ่ง ตามหลักการทางบัญชีนั้น “เงินกู้ยืม” ก็ต้องลงบันทึกในรายการเจ้าหนี้ ต้องมีระยะเวลาชำระคืนแน่นอน ส่วน “เงินบริจาค” นั้น ท่านให้ลงในช่องรายรับ กกต.จะบอกว่าหน่วยงานตนเป็นข้อยกเว้นกับหลักการ “บัญชีสากล” กระนั้นหรือ

ยังคงหวังและศรัทธาว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่เป็น “นิติสงคราม” อย่างเขาว่า ๆ กัน

Back to top button