ส่องหุ้นสื่อตัวไหนเด่น?

พูดถึงสถานการณ์อุตสาหกรรมสื่อและสิ่งพิมพ์ (Media) ทุกคนต่างรู้ดีว่าต้องฝ่าฟันอย่างหนัก หลังจากโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้น


เส้นทางนักลงทุน

พูดถึงสถานการณ์อุตสาหกรรมสื่อและสิ่งพิมพ์ (Media) ทุกคนต่างรู้ดีว่าต้องฝ่าฟันอย่างหนัก หลังจากโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้น

ผลลัพธ์ คือทำให้กลุ่มหนังสือ นิตยสาร โทรทัศน์ วิทยุ ได้รับผลกระทบกันอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นยังรวมถึงการเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัล โดยนักลงทุนคงจำกันได้ว่าก่อนหน้านั้นได้มีการเปิดประมูลทีวีดิจิทัลทำให้มีจำนวนช่องทีวีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเกิดการแข่งขันมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญกดดันทำให้หลาย ๆ บริษัทมีกำไรปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งทางกสทช.ได้เปิดโอกาสให้ผู้ดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลยื่นหนังสือขอคืนช่องได้ ผลปรากฏว่ามีช่องทีวีดิจิทัลทั้งสิ้น 7 ช่องที่ตัดสินใจขอคืนช่อง ทำให้ในปัจจุบันมีช่องทีวีดิจิทัลเหลือทั้งสิ้น 15 ช่องแล้ว

อย่างไรก็ตามจากปัจจัยทั้งหมดข้างต้นนั้นก็ยังมีบางหลักทรัพย์ก็ไม่ได้ทำเพียงแค่ธุรกิจหลัก Media เท่านั้น โดยยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่ดำเนินการควบคู่ไปด้วยเพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย นั่นจึงทำให้ยังสามารถยืนอยู่ในตลาดของธุรกิจดังกล่าวได้จนถึงทุกวันนี้

ล่าสุด บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) รายงานภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา พบว่าอุตสาหกรรมโฆษณาของไทยปรับตัวดีขึ้น  (เพิ่มขึ้น 5.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)  , (เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนตุลาคม)  โดยมีเม็ดเงินรวมประมาณ 9,564 ล้านบาท

สำหรับสื่อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเยอะ ได้แก่ โรงภาพยนตร์ (เพิ่มขึ้น 23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน), โทรทัศน์ (เพิ่มขึ้น 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน),  ขนส่ง (เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน), วิทยุ (เพิ่มขึ้น 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) และสื่อกลางแจ้ง (เพิ่มขึ้น 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)

ในส่วนของสื่อที่ปรับลดลง ได้แก่ หนังสือพิมพ์ (ลดลง 34% จากงวดเดียวกันของปีก่อน), นิตยสาร (ลดลง 26% จากงวดเดียวกันของปีก่อน), เคเบิล / ดาวเทียม (ลดลง 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) และสื่อโฆษณาในห้าง (ลดลง 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)

 ทั้งนี้ เม็ดเงินโฆษณารวม 11 เดือนแรกของปี 2562 อยู่ที่ 96,493 ล้านบาท ยังคงหดตัวที่ -0.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ข้อมูลข้างต้นทำให้ทางนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ปรับลดน้ำหนักลงทุนกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ เป็นน้อยกว่าตลาด โดยคาดว่าแนวโน้มเม็ดเงินโฆษณารวมปี 2562 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และยังไม่เห็นการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาที่ชัดเจนในปี 2563 โดยเฉพาะกลุ่มทีวี (Excl. Home Shopping) ที่ยังได้รับความกดดันจากการแข่งขันด้านราคา

ถึงอย่างไรก็ยังคงชอบกลุ่มสื่อนอกบ้าน มากกว่า Digital TV จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แม้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลจะคืนช่องจำนวน 7 ช่อง แต่ช่องที่คืนเป็นช่องเรตติ้งไม่สูงมาก ส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงต่อเนื่อง

ดังนั้นดาวเด่นในกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์คงหนีไม่พ้นกลุ่มสื่อนอกบ้านนั่นเอง

เลือก Top Pick ของกลุ่มคือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ  PLANB จากแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี 2562 ที่ยังคงสร้างสถิติสูงสุดใหม่ โดยจะเติบโตทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน

นอกจากนี้ยังมองว่าในปี 2563 จะเป็นปีที่ดีต่อเนื่องของ PLANB และก้าวสู่วัฏจักรการเติบโตรอบใหม่จากการทำงานรวมกันที่ชัดเจนของ PLANB, VGI และ MACO อีกทั้งเริ่ม capture เม็ดเงินจาก Trade promotion ผ่านทาง 7-Eleven ซึ่งไม่ทับช้อนกับเม็ดเงินโฆษณากลุ่มเดิม โดย Key risk คือ เม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวช้า เศรษฐกิจชะลอตัว

ดังนั้น บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ยังมองว่า PLANB ยังเติบโตได้อีกมาก ทั้งจากการร่วมมือกับ VGI & MACO ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการ capture เม็ดเงินโฆษณาทั้งในไทยและต่างประเทศ และมี Upside จาก M& A deals แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11 บาท/หุ้น

เช่นเดียวกับ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ถือว่ายังคงได้รับอานิสงส์จากสื่อนอกบ้านที่จะเป็นกระแสรายได้หลักของบริษัท อีกทั้งในการจัดตั้งธุรกิจที่ให้มีความหลากหลายในแง่ของแนวโน้มของระบบดิจิทัล รวมถึงคิดว่ามูลค่าในอนาคตส่วนใหญ่ควรมาจากการทำงานร่วมกันของธุรกิจ O2O

อีกทั้งทางด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11 บาท/หุ้น

เหมือนกับในรายของ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ที่ว่า รายได้จากสื่อโฆษณายังปรับตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสินทรัพย์สื่อภายในประเทศทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) ที่รับประกันส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำให้กับ MACO ทำให้บริษัทสามารถรับรองผลการดำเนินงานให้มั่นคงได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในการเข้าลงทุนใน บริษัท ฮัลโล บางกอก แอล อี ดี จำกัด และการเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ PLANB จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สื่อกลางแจ้งทั้งหมดของบริษัท พร้อมดันให้บริษัทมุ่งเน้นไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างเต็มตัว

สำหรับโครงสร้างใหม่นี้ ธุรกิจในประเทศจะสามารถใช้ประโยชน์จากการเพิ่มกำลังการผลิตที่สูงสุด ซึ่งนำไปสู่โอกาสที่จะพัฒนาอัตรากำไรของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าตลาดต่างประเทศจะเริ่มมีส่วนสำคัญในพอร์ตการขาย

ขณะเดียวกันทางบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 1.60 บาท/หุ้น

สรุปได้ว่าหุ้นที่ทำสื่อโฆษณานอกบ้านยังคงเป็นบวกต่อได้ !!!

Back to top button