3 บิ๊กรับเหมาบวกคึก! รับผลดีสภาฯผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 63 วาระ 2-3

3 บิ๊กรับเหมาบวกคึก! รับผลดีสภาฯผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 63 วาระ 2-3


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มรับเหมาขยับขึ้นถ้วนหน้านำโดย CK,SEAFCO และ STEC  โดยราคาหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ณ เวลา 10.45 น. อยู่ที่ระดับ 20.20 บาท บวก 1.30 บาท หรือ 6.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 306.62 ล้านบาท

ส่วนบริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ณ 10.46 น. อยู่ที่ระดับ 6.50 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 5.69% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 39.29 ล้านบาท

ด้านบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ณ เวลา 10.47 น. อยู่ที่ระดับ 15.30 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.08% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 454.04 บาท  

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า สภาผู้แทนราษฎร ผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วาระ 2-3 แล้ว ด้วยเสียงเห็นด้วย 253 ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 196 ไม่ลงคะแนน 1 หลังจากนี้ต้องผ่านวุฒิสภา (ส.ว.) คาดเริ่มเบิกจ่ายราวเดือน ก.พ. เป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมา วัสดุก่อสร้าง หุ้นรับเหมาฯที่กำไรดีในไตรมาส 4/62 มีเพียงบมจ.ไพลอน (PYLON) แต่ภาพทั้งปี โดยให้บมจ.ช.การช่าง (CK) เป็นหุ้นเด่น

 

ด้านบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 วาระ 2-3 ผ่านสภาฯในวันเสาร์ที่ผ่านมา และจะนำส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อไป และน่าจะผ่านเป็นกฎหมายได้ทันเดือน ก.พ.63 ทำให้การเปิดประมูลโครงการใหม่ จะสามารถกลับมาเริ่มดำเนินการได้อีกครั้ง เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ทั้งบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และ CK

 

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำหุ้น STEC ให้ราคาเป้าหมาย 23.5 บาท ยังมี Backlog สูง 8.4 หมื่นล้านบาท เพียงพอต่อรายได้เกือบ 3 ปี  ซึ่งคาดกำไรปี 63  จะกลับมาเติบโตดี 32% จากรายได้รับรู้มากขึ้น แม้ระยะสั้นไตรมาส 4/62 คาดกำไรลด เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,เทียบไตมาสก่อนหน้า จากเป็นช่วงคาบเกี่ยวจบงานเก่าและเริ่มงานใหม่ ซึ่งรับรู้รายได้น้อย

ด้าน Valuation ราคาเริ่มยืนได้หลังปรับลงมาแรงจากประเด็นข้อพิพาท มองเป็นจุดเข้าลงทุนและเก็งกำไรสำหรับผู้รับความเสี่ยงสูงได้ โดยมี valuation ซื้อขาย P/BV20F 1.5x ยังเหมาะสมจากความสามารถในการทำกำไรสูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ใกล้จะเริ่มถูกนำมาใช้ จะช่วยกระตุ้นความน่าสนใจกลุ่มอิงลงทุนอีกครั้ง และผ่านช่วงปรับฐานแรงทั้งประเด็นข้อพิพาทและการปรับลดประมาณการจากตลาดมาแล้ว มี downside จำกัด เป็นจุดลุ้นการฟื้นตัวรอบใหม่

นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้น CK ให้ราคาเป้าหมาย 31 บาท  แนวโน้มผลประกอบการเข้าสู่ช่วงใกล้จุดต่ำสุดในไตรมาส 4/62-ไตรมาส 1/63 จากรายได้ลดลงจากช่วงปลายของงานใหญ่ๆ และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น  และจะเริ่มกลับมาเติบโตได้หลังจากนั้น โดยประเมินกำไร 2563 กลับมาฟื้นแรง 88% จากฐานต่ำ และบริษัทลูก ทั้งบมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ช่วยผลักดันผลประกอบการ รวมถึงร่างงบประมาณรายจ่ายใกล้ผ่านแล้ว จะกลับมากระตุ้นการเบิกจ่ายและเปิดประมูลโครงการใหญ่ หนุนฐาน Backlog ช่วงถัดไป

ด้าน Valuation ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาแรง 34% ในรอบ 6 เดือน มองเป็นจุดซื้อที่ดีอีกครั้ง และซื้อขายที่ PBV63 1.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 1.93 เท่า

 

Back to top button