‘พี่กอง’ ตื่นตูม

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ (20 ม.ค.) นักลงทุนสถาบัน ประเภทกองทุน ต่าง ๆ ขายหุ้นออกมาอย่างหนัก

เบ็ดเสร็จกว่า  4,896 ล้านบาท

หุ้นหลัก ๆ ที่ถูกซัดออกมาแบบทีละไม้ตั้งแต่เปิดตลาดหุ้นภาคเช้าคือกลุ่มธนาคารนั่นแหละ

เริ่มจากธนาคารไทยพาณิชย์  SCB ที่กำไรออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ค่อนข้างมาก และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น

แม้ไทยพาณิชย์จะมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษ 0.75 บาท ต่อหุ้น

ทว่า ก็ยังไม่สามารถช่วยประคองหุ้นได้มากนัก

ทำให้ปิดตลาดปรับลงไป 15.00 บาท มาที่ 102 บาท (ระดับต่ำสุดของวัน) เปลี่ยนแปลงลดลง 12.82% มูลค่าการซื้อขายสนั่นทุ่งกว่า 10,253 ล้านบาท

อ้อ… ราคาหุ้นปิด 102 บาทต่อหุ้นถือว่าต่ำสุดในรอบกว่า 8 ปีเลยนะ

P/E Ratio ณ ราคาปิดวานนี้ ลดลงมาที่ 8.15 เท่า

และ P/BV ลงมาเหลือเพียง 0.88 เท่า

เห็นตัวเลขแบบนี้จะว่าต่ำก็ต่ำ

แต่ก็พอเข้าใจได้ว่า เมื่อตัวเลขงบการเงินออกมาแบบนี้

ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่นักลงทุน (กองทุน) และมีหุ้นอยู่ในพอร์ต จะต้องปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงออกไปก่อน

เพราะหากคนอื่นขาย และเราไม่ขาย

ก็ขาดทุน (mark to market) กันพอดี

ราคาหุ้นไทยพาณิชย์ที่ร่วงลงมาหนักขนาดนี้ ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะฟื้นตัวเมื่อไหร่

แต่จากข้อมูลที่ได้รับ จะมีนักวิเคราะห์ไปประชุมกับผู้บริหารของธนาคารในช่วง 2-3 วันนี้

หลังจากนั้น จึงจะมีข้อมูลอัปเดตออกมาว่า หลังได้ฟังข้อมูลจากผู้บริหารกันแล้ว

นักวิเคราะห์จากโบรกฯ ต่าง ๆ จะมีมุมมองกันอย่างไรต่อไป

ใครยังมีหุ้น SCB อยู่ในพอร์ต จะต้องขยันตามข้อมูลกันมากหน่อย โดยเฉพาะราคาเป้าหมาย ที่อาจจะมีการปรับลดลงมาบ้างค่อนข้างแน่นอน

เชื่อว่า นักลงทุนต่างเฝ้ารอเรื่องนี้แหละ

แต่ส่วนตัวแล้วยังเชื่อว่า ราคาหุ้น SCB มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นทางเทคนิค หรือ Technical Rebound ในช่วง 1-2 วันนี้ หรืออาจจะวันนี้เลยก็ได้

หุ้นแบงก์อีกตัวที่ผลประกอบการออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดคือ TMB

แต่ยังไม่ถือว่าสาหัสอะไรมากนัก

เพราะที่นักวิเคราะห์เคยประเมินไว้นั้น  พวกเขาคาดว่า ทีเอ็มบี น่าจะมีการบันทึกกำไรจากการขาย TFUND เข้ามาในงบไตรมาส 4/2562 ทำให้กำไรก้าวกระโดดขึ้นไป 2.9 พันล้านบาท

แต่ปรากฏว่า ไม่ได้มีการบันทึกกำไรจากการขายดังกล่าว

ส่วนกำไรที่ลดลงมาเล็กน้อย (5%) ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าฟีลดลง และตั้งสำรองเพิ่ม

ส่วนตัวเลขที่พอเห็น แล้วทำให้ชื่นใจหน่อยคือ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ลดลงจาก 2.75% มาเหลือ 2.33%

ตัวเลข NPL นี้ ทำให้ราคาหุ้น TMB ไม่ได้ลงหนักมากนัก

ปิดตลาด ลดลง 0.05 บาท มาที่ 1.51 บาท เปลี่ยนแปลง -3.21%

แต่จากการที่ SCB และ TMB ออกอาการเดินเซแบบนี้

ทำให้นักลงทุนหวั่นว่า หุ้นแบงก์อื่น ๆ จะมีปัญหาเช่นเดียวกันหรือไม่ เลยพากันกระหน่ำขายออกมาทั้ง BBL KBANK KTB

4 หุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ วานนี้มียอดเทรดรวมกันกว่า 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท จาดยอดเทรดวานนี้ 57,944 ล้านบาท

หุ้นไทยพาณิชย์ มียอดเทรดสูงสุดกว่า 1.02 หมื่นล้านบาท

วันนี้ต้องมาลุ้นกันว่า 3 แบงก์ใหญ่ BBL KBANK และ KTB จะออกมากันอย่างไร

หากออกมาดีกว่าคาดการณ์

งานนี้มีขายหมูกันเป็นแถว

แต่หากออกมาเท่ากับ หรือต่ำกว่าคาด

ราคาหุ้นอาจจะไม่ได้ปรับลงไปอีกมากนัก เพราะวานนี้ถือว่าลงมารองรับกับข่าวไปแล้วล่ะ

แต่ทั้งหมดนี้ คงขึ้นอยู่กับพี่กองเขาล่ะว่าจะถือต่อ หรือขายออกอีก