ด่วน! “ศาลรธน.” วินิจฉัยยุบพรรค “อนาคตใหม่” ปมกู้เงิน “ธนาธร” 191.2 ลบ.ไม่ชอบด้วยกม.

ไม่รอด! “ศาลรธน.” วินิจฉัยยุบพรรค “อนาคตใหม่” ปมกู้เงิน “ธนาธร” 191.2 ล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.พ.63) เวลา 15.00 น. องค์คณะศาลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เริ่มอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ วงเงิน 191.2 ล้านบาท เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หรือไม่ ที่บัญญัติห้ามไม่ให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ได้ว่ามาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นระยะเวลา 10 ปี เนื่องจากกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เป็นจำนวนเงิน 191.2 ล้านบาท ซึ่งศาลฯ เห็นว่าแท้จริงเป็นการบริจาคเงินที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยการทำสัญญากู้เงินที่ผิดปกติวิสัยและเอื้อประโยชน์กับพรรคการเมือง ถือเป็นหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางกฎหมายในการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมือง

ทั้งนี้ความตอนหนึ่งของคำวินิจฉัยระบุว่า ตามเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง ต้องมีมาตรการควบคุมการบริหารเพื่อให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันของประชาชน จึงต้องพิจารณาเรื่องที่มาของทรัพย์สินที่ใช้ในพรรคการเมืองว่ามีที่มาอย่างไร ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ กฎหมายจึงกำหนดไม่ให้พรรคการเมืองไปเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคที่มิชอบ

โดยพรรคการเมืองสามารถกู้ยืมเงินได้หรือไม่ เห็นว่า การดำเนินกิจกรรม ต้องอาศัยเงินรายได้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เงินส่วนใดที่นำมาทำกิจกรรม หากได้มาโดยมิชอบ ไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด แม้ไม่ได้กำหนดให้กู้ยืม แต่ก็ไม่ได้รับรองให้ทำได้ เงินกู้ไม่ใช่รายได้ แต่ก็เป็นรายรับ จึงต้องทำตามที่กม.กำหนดเท่านั้น การกู้ยืมเงินของพรรคการเมืองต้องสอดคล้องกับกฎหมายเท่านั้น

โดยเมื่อพิจารณาตาม กฎหมายพรรคการเมือง บริจาค หมายความรวมถึงการให้ประโยชน์อื่นใดด้วย การให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ การให้กู้ โดยไม่คิดไปตามปกติทางการค้า ย่อมถือว่าเป็นประโยชน์อื่นใดต่อพรรคการเมือง จึงต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ

ด้วยเหตุนี้ คำว่าบริจาค และ ประโยชน์อื่นใด เป็นความหมายเฉพาะในกฎหมาย เพื่อกำหนดให้พรรคการเมืองทำรายได้ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นประชาธิปไตยในพรรค ให้พรรคไม่เป็นเครื่องมือของใคร

ข้อเท็จจริงของผู้ถูกร้องที่ยื่นต่อผู้ร้อง พบว่าผู้ถูกร้องมีรายได้กว่า 71 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายกว่า 72 ล้าน พบค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้เพียงล้านบาท แต่กลับทำสัญญากู้ยืมเงิน 2 ฉบับถึง 192 ล้าน ทำดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า การกู้ยืมเงินของผู้ถูกร้องเป็นการรับบริจาคเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกร้องกระทำความผิด ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคทางการเมืองเป็นระยะเวลา 10 ปี

Back to top button