“กทม.” ออกมาตรการรับมือฝุ่นพุ่ง สั่งปิด ร.ร. ในสังกัด 26-27 ก.พ.นี้!

“กทม.” ออกมาตรการรับมือฝุ่นพุ่ง สั่งปิด ร.ร. ในสังกัด 26-27 ก.พ.นี้! หลังกรมอุตุฯคาดการณ์สภาพอากาศ ไม่มีฝน-ลมอ่อน มีแนวโน้มฝุ่น PM 2.5 สะสม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.พ.63) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร ที่มี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน

โดยระบุว่า ที่ประชุมได้หารือการกำหนดมาตรการรองรับสถานการณ์ฝุ่นละออง หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. 63 นี้ พื้นที่กรุงเทพฯ จะไม่มีฝน ประกอบกับลมอ่อน ทำให้มีแนวโน้มการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กมีปริมาณสูงขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ 8 มาตรการเร่งด่วน ดังนี้

  1. ขอความร่วมมือกองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกคำสั่งเจ้าพนักงานจราจรห้ามรถบรรทุก ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป เข้าพื้นที่ถนนวงแหวนรัชดาภิเษก ตั้งแต่เวลา 00.00 – 24.00 น. ของวันที่ 27 ก.พ.
  2. ขอความร่วมมือกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งจุดตรวจรถควันดำ 50 เขต ในวันที่ 27 ก.พ.
  3. สั่งการสำนักงานเขต สำนักเทศกิจ และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตรวจสอบพื้นที่โดยเข้มงวดเพื่อไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง 100% โดยระดมกำลังสายตรวจเทศกิจออกตรวจตราเพิ่มเติมในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการเผาในที่โล่ง
  4. ประสานผู้ประกอบการหรือผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้า และอาคารขนาดใหญ่ หยุดการก่อสร้างหรือหยุดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นและควัน ระหว่างวันที่ 26-28 ก.พ.
  5. ให้สำนักการศึกษา สั่งการโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครหยุดการเรียนการสอนในวันที่ 26-27 ก.พ.นี้
  6. มอบสำนักการโยธา ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม ล้างทำความสะอาด ดูดฝุ่นถนน และฉีดล้างต้นไม้ ทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่คาดว่าค่าฝุ่นละออง PM2.5 สูง โดยไม่ซ้ำกับแผนการดำเนินการของเขต
  7. ขอความร่วมมือองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตรวจค่าควันดำจากรถโดยสารสาธารณะทุกคัน ณ ท่าปล่อยรถ ในวันที่ 26-28 ก.พ.63
  8. ให้หน่วยงานดำเนินมาตรการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อม เสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้ความเห็นชอบมาตรการทั้งหมดภายในวันนี้ เพื่อให้ทุกหน่วยงานเร่งปฏิบัติโดยเร่งด่วนต่อไป

Back to top button