KCE คาดกำไรไตรมาส 2/58 สดใสแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 55.00 บาท

KCE แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 55 บาท ทั้งนี้ประเมินว่ากำไรหลักไตรมาส 2/58 จะสดใส และได้ประโยชน์บาทอ่อนค่า ราคาทองแดงซึ่งเป็นสัดส่วนต้นทุน 10% ได้ปรับตัวลงมากทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลง ส่วนราคาทองคำที่ปรับลง มีผลดีเล็กน้อยเพราะเป็นสัดส่วนเพียงประมาณ 0.1-0.2% ของต้นทุนการผลิตเท่านั้น


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (5 ส.ค.) ว่า บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE คาดการณ์กำไรหลัก ไตรมาส 2/58 สดใสเป็น 586 ล้านบาท เพิ่ม 22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 15% เทียบไตรมาสก่อนหน้าแต่คาดว่าจะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น 58 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ เนื่องจากเงินกู้ต่างประเทศระยะยาว 45 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนสาเหตุที่กำไรหลักไตรมาสนี้ดี เพราะรายได้สกุลเหรียญสหรัฐเพิ่ม 6% ตามคำสั่งซื้อ PCB ที่ดีขึ้น แต่จากการที่บาทอ่อนค่าส่งผลดี 2 ประการคือ 1) รายได้สกุลบาทเพิ่ม 9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 2) อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 30.5% เทียบกับ เทียบไตรมาสก่อนหน้าที่ 28.9% แต่ยังต่ำกว่า เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่สูงถึง 31.4% สำหรับกำไรหลักครึ่งแรกปี 58เป็น 1.1 พันล้านบาท เพิ่ม 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและคิดเป็น 46% จากประมาณการกำไรหลักปี 58

อัตราการใช้กำลังการผลิตในโรงงานแห่งใหม่ที่ลาดกระบังเฟส 1 ดีขึ้นต่อเนื่อง คือ อัตราการใช้กำลังการผลิตเป็น 50% เทียบกับ 1Q58 ที่ 30% ถือว่าถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ขณะที่อัตราของเสียอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจคือไม่สูงมากเป็น 4% บริษัทให้แนวทางว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตใน ไตรมาส 3/58 เพิ่มขึ้นอีกเป็น 60-70% (ทำให้รายได้ ไตรมาส 3/58 เพิ่มอีก 5-10% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และเมื่อถึง ไตรมาส 4/58 จะมีการย้ายการผลิตจากโรงงานเก่ามายังโรงงานใหม่เสร็จ จะทำให้เพิ่มขึ้นไปอีกเป็นประมาณ 80% ข้อดีคือ จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นตามลำดับ อีกทั้งเมื่อถึง ไตรมาส 4/58 เมื่อย้ายเสร็จและปิดโรงงานเก่าไปแล้ว จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน

การเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานใหม่ยังเป็นไปตามแผน คือ จากกำลังการผลิตเฟส 1 ซึ่งเป็นเฟสใหม่มีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 7 แสนตารางฟุตต่อเดือน ส่วนเฟส 2 ย้ายจากโรงงานเดิมมากำลังการผลิตเพิ่มอีก 6 แสนตารางฟุตต่อเดือน บริษัทคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตสำหรับเฟส 1 และ 2 จะไปถึง 100% ได้กลางปี 59 และจะเริ่มเฟส 3 อีก 6 แสนตารางฟุตต่อเดือน โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 1.4 พันล้านบาท

ปัจจัยที่ทำให้มั่นใจว่าคำสั่งซื้อ PCB ของบริษัทว่าจะยังคงแข็งแกร่ง คือ 1) KCE มีอัตราครองตลาดสำหรับตลาดรถยนต์เพียง 6-7% และทุกตลาดเป็น 1% จึงมีช่องว่างที่จะเติบโตได้อีกมาก 2) หากต้องการเพิ่มยอดขาย ก็สามารถใช้วิธีลดอัตรากำไรลงบ้าง และ 3) สถานการณ์บาทอ่อนค่า ทำให้สินค้ามีราคาถูกลง และมีความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันเทียบกับคู่แข่งในจีนที่กำหนดค่าเงินหยวนไว้คงที่

แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 55 บาท ทั้งนี้ประเมินว่ากำไรหลักไตรมาส 2/58 จะสดใส และได้ประโยชน์บาทอ่อนค่า ราคาทองแดงซึ่งเป็นสัดส่วนต้นทุน 10% ได้ปรับตัวลงมากทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลง ส่วนราคาทองคำที่ปรับลง มีผลดีเล็กน้อยเพราะเป็นสัดส่วนเพียงประมาณ 0.1-0.2% ของต้นทุนการผลิตเท่านั้น 

Back to top button