“ดาวโจนส์” ปิดร่วง 3 พันจุด นักลงทุนหวั่นมาตรการ “เฟด” ไม่พอยับยั้งผลกระทบโควิด-19

“ดาวโจนส์” ปิดร่วง 3 พันจุด นักลงทุนหวั่นมาตรการ “เฟด” ไม่พอยับยั้งผลกระทบโควิด-19


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3,000 จุดเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) ทำสถิติทรุดตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2530 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าแทรกแซงตลาดอีกครั้งด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินและอัดฉีดเงินผ่านการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก็ตาม นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลมากขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันมากกว่า 10 คน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,188.52 จุด ทรุดตัวลง 2,997.10 จุด หรือ -12.93% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,386.13 จุด ร่วงลง 324.89 จุด หรือ -11.98% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,904.59 จุด ดิ่งลง 970.28 จุด หรือ -12.32%

โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงอย่างหนัก ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างตื่นตระหนก จนทำให้ตลาดต้องใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาทีเมื่อคืนนี้ ซึ่งถือเป็นการใช้ครั้งที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยนักลงทุนวิตกกังวลว่า การที่เฟดออกมาตรการครั้งใหญ่ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 1.00% และอัดฉีดเงินผ่านการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์นั้น ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19

เนนักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวอเมริกันระงับการจัดกิจกรรมทางสังคมเป็นเวลา 15 วัน และหลีกเลี่ยงรวมตัวกันมากกว่า 10 คน ซึ่งถือเป็นความพยายามเชิงรุกในการลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

หุ้นเอเอ็มซี เอนเตอร์เทนเมนท์ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงภาพยนตร์ใหญ่สุดของสหรัฐ ร่วงลง 19.3% ขณะที่หุ้นซีเนมาร์ค โฮลดิ้งส์ ดิ่งลง 31% หลังจากหน่วยงานของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของสหรัฐได้ออกมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการรวมตัวกันของประชาชน

หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวผันผวน หลังจาก Airlines for America ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ตัวแทนสายการบินโดยสารของสหรัฐและสายการบินคาร์โกจำนวน 10 สายการบิน เรียกร้องให้รัฐบาลอนุมัติความช่วยเหลือวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่อุตสาหกรรมการบินของสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 14.8% ขณะที่หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดีดตัวขึ้น 11.25% หุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส ลดลง 5.1% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ลดลง 6.6% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ร่วงลง 9.06%

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 9.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอ็กซอน โมบิล ลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA จากระดับ AA+ เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มร่วงลงต่อเนื่อง

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2562 และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference Board

Back to top button