SET สัปดาห์นี้ ‘Sideway’ กลยุทธ์แนะกระชับพอร์ตเก็งกำไร-สะสมหุ้นเพื่อระยะยาว

Weekly outlook: “Upside Limited” ต้าน 1164/1187จุด รับ 1110/1070จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (7-10 เม.ย.63) สัปดาห์นี้คาดตลาดหุ้นไทย ‘Side way or Down’ โดยปัจจัยสำคัญคือประเด็นทางฝั่งน้ำมันดิบ โดยปธน. Trump ได้หารือกับผู้นำซาอุและรัสเซียในการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก มีแนวโน้มว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการยุติการทำสงครามราคากันได้เร็วๆนี้

ขณะที่ทางซาอุเองได้เรียกร้องให้กลุ่ม OPEC รวมทั้งรัสเซียและประเทศพันธมิตรจัดการประชุมฉุกเฉิน 6 เม.ย.นี้โดยซาอุส่งสัญญาณความพร้อมที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงสู่ 9 ล้านบาร์เรล/วัน (ปัจจุบัน 12 ล้านบาร์เรล/วัน) ขณะที่ความต้องการของซาอุในครั้งนี้คือการร่วมมือกันของทั้ง OPEC Non-OPEC และประเทศอื่นๆอย่างสหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งหากสำเร็จจะถือเป็นการรวมตัวครั้งที่ใหญ่ที่สุดของผู้ผลิตน้ำมัน โดยประเด็นสำคัญ จับตาการประกาศ Official Selling Price ของซาอุในวันที่ 5 เม.ย. จะเป็นตัวบ่งชี้จุดยืนของซาอุได้อย่างชัดเจน

ส่วนความคืบหน้าการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งขึ้นทะลุ 1 ล้านราย ซึ่งเป็นสหรัฐฯที่ยอดผู้ติดเชื้อน่ าประเทศอื่นๆอย่างมีนัยขณะที่เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากฝั่งยุโรป ทั้งอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันชะลอลงต่อเนือง อาจบ่งชี้ได้ว่า ยุโรปผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว

ทั้งนี้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากโรค Covid-19 เริ่มชัดเจนขึ้น หลังดัชนี PMI ภาคการผลิตของทั้งสหรัฐฯและยูโรโซนหดตัวอย่างมีนัยสำคัญ ผสานผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯพุ่งขึ้น 6.6 ล้านราย ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มความกังวลต่อนักลงทุน เนื่องจากแนวโน้มในช่วง 2Q20 มีโอกาสแย่ลงไปอีก ส่วนสำหรับไทยยอดผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 1,978 ราย ทำให้นายกฯประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มถึงตี 4 ขณะที่การประชุมครม.นัดพิเศษ มีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจเฟส 3

– กลุ่ม 1เยียวยาดูแลภาคประชาชนและธุรกิจส่วนที่ยังขาดอยู่เพื่อให้ครอบคลุมครบถ้วน

– กลุ่ม 2 ดูแลให้มีกิจกรรมเศรษฐกิจในช่วงที่ทุกอย่างติดขัด เพื่อไม่ให้เศรษกิจไทยหยุดชะงักในช่วง 3-4เดือนข้างหน้า

– กลุ่ม 3 ดูแลภาคเศรษฐกิจการเงิน

โดยวงเงินที่ใช้อาจจะมีความใกล้เคียงกับรัฐบาลของประเทศอื่นๆ หรือประมาณ 10% ของ

GDP จับตาการประกาศอย่างเป็นทางการในการประชุมครม. 7 เม.ย.

กลยุทธ์การลงทุน: การ Rebound ต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากกลุ่มพลังงาน ท าให้ใกล้จุดของการพักตัว ล่าสุดดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ และการ Previews งบเชิงลบ กำลังทยอยออกมาทำให้ตลาดเสี่ยงปรับฐานอีกรอบ

กลยุทธ์แนะนำกระชับพอร์ตเก็งกำไร เน้นสะสมหุ้น เพื่อระยะยาว Dividend Play : ADVANC, INTUCH, AP, LH, KKP ,Domestic Deep Value CPALL, HMPRO, BJC กลุ่มอาหาร CPFและDefensive(EGCO, CHG) เป็นหลัก

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ EGCO, CHG ส่วนสัปดาห์ก่อน CPF ให้ผลตอบแทน 4.34% ดีกว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 3.55%

1) EGCO(TP310) : หุ้น Defensive มี PER 10.7เท่า และกำไรมั่นคง

2) CHG(TP2.68) : หุ้น Defensive ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 น้อย