สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 เม.ย. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 เม.ย. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากธนาคารยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา รายงานผลกำไรที่ทรุดตัวลงในไตรมาสแรกปีนี้ นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่หลายรายการ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนมี.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,504.35 จุด ร่วงลง 445.41 จุด หรือ -1.86% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,783.36 จุด ลดลง 62.70 จุด หรือ -2.20% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,393.18 จุด ลดลง 122.56 จุด หรือ -1.44%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังทะยานขึ้น 5 วันติดต่อกัน โดยนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาจากความวิตกเกี่ยวกับการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.25% ปิดที่ 323.06 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,353.72 จุด ลดลง 170.18 จุด หรือ -3.76%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,279.76 จุด ลดลง 416.80 จุด หรือ -3.90% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,597.65 จุด ลดลง 193.66 จุด หรือ -3.34%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่ารัฐบาลอังกฤษจะขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์ต่อไปเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และราคาน้ำมันที่ลดลงซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,597.65 จุด ร่วงลง 193.66 จุด หรือ -3.34%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 20 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) และทำสถิติปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 18 ปี หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนว่า วิกฤตการณ์จากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 12

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 19.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 2545

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 6.6% ปิดที่ 27.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังราคาทองพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 28.7 ดอลลาร์ หรือ 1.62% ปิดที่ 1740.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 62.5 เซนต์ หรือ 3.87% ปิดที่ 15.505 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 15.1 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 804.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 31.80 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 2,153.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

อลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกและดัชนีภาคการผลิตที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.45 เยน จากระดับ 107.16 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9636 ฟรังก์ จากระดับ 0.9602 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4083 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3909 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0921 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0979 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2550 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2627 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6329 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6434 ดอลลาร์

 

Back to top button