โบรกเคาะราคาเป้า COM7 ที่ 4.5 บาทกำไรปีนี้ลุ้นทำจุดสูงสุด เพิ่มเกือบ 30%

COM7 ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกไอทีและสื่อสารที่มีสาขามากที่สุดในไทย รวมทั้ง มีร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ที่ครองมาร์เก็ตแชร์สูงสุด กำไรปีนี้จะเติบโตเกือบ 30% yoy จากกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน หนุนอัตรากำไรสูงขึ้น


บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค.) ว่า บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เป็นผู้ประกอบการร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าไอทีและสื่อสารครบวงจรรายใหญ่ของประเทศโดยมีจำนวนสาขามากสุดถึง 324 แห่ง ภายใต้ชื่อร้านที่บริษัทพัฒนาเอง 202 แห่ง (Banana IT, Banana Mobile, Mango shop) และร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเฉพาะแบรนด์ Apple 119 แห่ง คือ istudio, iBeat, U Store และ iCare ซึ่งสินค้าได้รับความนิยมสูงมาก และเป็นรายได้หลักราว 50% ของรายได้รวม โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอิงจำนวนสาขาของร้านดังกล่าวสูงถึง 69% (กรุงเทพฯ 42% และต่างจังหวัด 92%)

 

ทิศทางกำไรปีนี้คาดจะเติบโตโดดเด่น 29% จากปีก่อน (ไตรมาส 1/58 เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน) และเติบโตเฉลี่ยช่วง 3 ปีนี้ที่ 25% ต่อปี โดยปัจจัยผลักดันหลักจะเกิดจากธุรกิจสมาร์ทโฟนที่ยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากกระแสความนิยม รวมถึงกลยุทธ์เพิ่มอัตราการทำกำไรทั้งจาก เงื่อนไขการค้าที่ดีขึ้นในกลุ่มสมาร์ทโฟน (เริ่มเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 1/58), การปรับปรุงเรื่อง Supply chain management โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยและการเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เสริม (Accessories) รวมถึงการเพิ่มฐานรายได้ไปสู่การบริการซ่อมแซมสินค้าซึ่งมีการแข่งขันที่ต่ำกว่า ซึ่งล้วนมี Margin สูง

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในส่วนของรายได้เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 4% ต่อปี เพราะแม้จะได้ประโยชน์จากการแผนเปิดสาขาใหม่อีกราว 58 แห่ง และการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆโดยเฉพาะแบรนด์ Apple แต่จะถูกหักล้างบางส่วนจากรายได้กลุ่มไอทีและคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในช่วงอิ่มตัว

 

ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2558 อิง PER 20 เท่า อยู่ที่ 4.50 บาท จากกรอบ PER ที่ต่ำสุดของผู้ประกอบการในกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากธุรกิจของ COM7 มีความผันผวนที่สูงกว่าและหากเทียบกับผู้ประกอบการกลุ่มค้าปลีกโทรศัพท์มือถือทั้ง JMART และ SIM พบว่า มีระดับ PER ที่ 17 เท่า ใกล้เคียงกัน แต่ทิศทางกำไรจะไม่โดดเด่นเท่า COM7 โดยทั้ง JMART และ SIM มีระดับ Expected EPS Growth ปี 58 อ่อนตัว 5% และ 18% yoy ตามลำดับ แต่ทั้งนี้ หากเทียบในช่วงที่ทิศทางผลประกอบการเติบโตในระดับสูงนั้น ทั้ง JMART และ SIM ซื้อขาย ณ ระดับ PER สูงกว่า 30 เท่า

 

*บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ COM7 ในครั้งนี้ โดยการจัดทำเอกสารฉบับนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำเสนอข้อมูลและบทวิเคราะห์เท่านั้น การตัดสินใจลงทุนขึ้นกับดุลยพินิจของนักลงทุน

Back to top button