SET สัปดาห์นี้ ‘Sideway-Down’ แนะลดเก็งกำไรหากหลุด 1,250-1,273 ชู BAM-BEM หุ้นเด่น

โบรกฯชี้ SET สัปดาห์นี้ ‘Sideway-Down’ แนะลดเก็งกำไรหากหลุด 1,250-1,273 ชู BAM-BEM หุ้นเด่น


Weekly outlook: “Sideway-Down” ต้าน 1,294/1,303 จุด รับ 1,252/1,200 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (18 – 22พ.ค.63) คาดสัปดาห์นี้คาดตลาดหุ้นไทย ‘Sideway-Down’ ความคืบหน้าการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 สถานการณ์ทางฝั่งตะวันตกดีขึนต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯและยุโรป เพิ่มขึ้นเพียง 1.5% และ 0.4-0.6% ตามลำดับ แต่กลุ่ม BRIC (ยกเว้นจีน) กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดที่รุนแรง

โดยเฉพาะรัสเซียที่ยอดผู้ติดเชื้อรวม พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกับสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ที่เผชิญยอดผู้ติดเชื้อรายวันในระดับสูงทำให้ Nomura ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปี 2020 ลงสู่ -4.5% จากเดิม -3.6% เนื่องจากผลกระทบในหลายประเทศมากกว่าที่ประเมินไว้ โดยเฉพาะ EM

ส่วนประเด็นทางฝั่งน้ำมันดิบเศรษฐกิจโลกที่ได้รับแรงกดดันจากโรค Covid-19 ทำให้เกิดความกังวลต่อ demand ต่อเนื่อง โดยล่าสุด จากรายงานประจำเดือนของ OPEC มีการปรับลดคาดการณ์ demand น้ำมันดิบโลกของปี 2020 ลงสู่ -9.07 ล้านบาร์เรล/วัน (เดิมคาด -6.85ล้านบาร์เรล/วัน) ทำให้เห็นความพยายามของ OPEC+ ในการสร้างเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน

ซึ่งล่าสุด ซาอุประกาศปรับลดกำลังการผลิตลงเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ 7.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนหน้า เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี จึงแนะจับตาความเคลื่อนไหวของประเทศอื่นๆในกลุ่ม OPEC+ ทั้งนี้ ประเด็นการค้าสหรัฐฯ-จีนยังคงมีความตึงเครียดต่อเนื่อง หลังปธน. Trump ไม่ต้องการที่จะเจรจาข้อตกลงการค้าเฟส 1 ใหม่ แม้จะเกิดเหตุการณ์ Black swan อย่างโรค Covid-19 ผสานวุฒิสมาชิกเสนอร่างกม. COVID-19 Accountability Act ให้อำนาจประธานาธิบดีในการออกมาตรการลงโทษจีน ทำให้อุณหภูมิระหว่างสองประเทศเพิ่มสูงขึ้น กดดันจิตวิทยาการลงทุนได้

ส่วนปัจจัยภายใน ศบค.ประกาศผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เฟส 2 โดยผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมในกลุ่มสีเขียว คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดในเกณฑ์ปานกลาง ไม่ว่าจะเป็น การจำหน่ายอาหาร หรือ เครื่องดื่มในอาคาร เปิดห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ คลินิค เสริมความงาม สถานที่ออกกำลังกายในร่ม สระน้ำ รวมถึงปรับเวลาเคอร์ฟิ วเป็น 23.00 น.-04.00 น. ทั้งหมดมีผล 17พ.ค. นี้

ส่วนปัจจัยอื่นๆสัปดาห์นี้ จับตา 1)รายงานตัวเลข GDP 1Q20 18 พ.ค.นี้ (Nomura คาด -3.5%) ซึ่งรอบนี้จะเป็นการรายงานพร้อมกันระหว่างสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ซึ่งจะมีการแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจของปี 2020 ด้วย 2)การประชุมกนง.(20 พ.ค.) คาดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 25bps สู่ระดับ 0.5%

กลยุทธ์การลงทุน: Valuation ตลาดตึงตัว หลัง Consensus หั่น Market EPS 2020-2021เหลือเพียง 70-86 บาทต่อหุ้น(vs CNS 66-61 บาท และ78-74 บาท ตามลำดับ) ทำให้คาดว่า 3 เดือนถัดไป ตลาดจะหั่นลงมาต่อเนื่องใกล้เคียง ผสานปัจจัยหนุนใหม่ๆ ไม่มี จึงเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน ใช้ 1273/1250จุด เป็นจุดหมุนออกลดการเก็งกำไร กรณีหลุดระดับดังกล่าว ส่วนพอร์ตลงทุนถือหุ้นเพียง 30%

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้: แนะนำ BAM, BEM ส่วนสัปดาห์ก่อน BEM, AWC, MAKRO ให้ผลตอบแทน -3.24 แย่กว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 1.16%

 1) BAM (TP 31.00): MSCI เพิ่มน้ำหนักการลงทุนอย่างมีนัยฯ

2) BEM (Trad): Unlockdown Phase 2 หนุนจำนวนผู้โดยสาร

Back to top button