เปิดงบฯ ไตรมาสแรก 5 หุ้น mai มาร์เก็ตแคปสูง “โควิด” ฉุดผลงานอ่วม!

เปิดงบฯ ไตรมาสแรก 5 หุ้น mai มาร์เก็ตแคปสูง "โควิด" ฉุดผลงานอ่วมหนัก!


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุด 5 อันดับแรกที่ทำการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.ออกมา โดยพบว่า ส่วนใหญ่บริษัทมีผลประกอบการที่อ่อนแอลง โดยบริษัทได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจหนักในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม 5 อันดับแรกนั้น พบว่า บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เป็นเพียงบริษัทเดียวที่มีผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับหุ้น 5 อันดับที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุด ประกาศผลประกอบการออกมาดังนี้

 

อันดับที่ 1 บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีกำไรสุทธิ 19.34 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 36% จากไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 30.78 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวปรับตัวลดลงเนื่องจาก บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น 14.8% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 37.1% นอกจากนี้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 152.8% โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาจากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์การใช้และ Software

 

อันดับที่ 2 บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีกำไรสุทธิ 13.30 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 78% จากไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 59.68 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานลดลงเนื่องจากรายได้รวมไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 220.01 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 288.27 ล้านบาท

 

อันดับที่ 3 บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีกำไรสุทธิ 40.83 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 3.03% จากไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 42.10 ล้านบาท

 

อันดับที่ 4 บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีกำไรสุทธิ 5.20 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 86% จากไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 37.18 ล้านบาท

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลง เนื่องจากรายได้รวมสำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 มีจำนวน 583.3 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 182 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 23.8 จากการลดลงของรายได้จากการขายและบริการจำนวน 232.7 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และมีผลกระทบต่อธุรกิจทำให้ปริมาณการใช้แก๊สลดลงจากการล็อกดาวน์ที่ให้ประชาชนเดินทางน้อยลง ประกอบกับโครงการในธุรกิจออกแบบ จำหน่าย และติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า และตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อมมีการเลื่อนโครงการออกไป

 

อันดับที่ 5 บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีกำไรสุทธิ 85.72 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.03% จากไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 84.85 ล้านบาท

 

Back to top button