หุ้นอสังหาฯ เทรดคึก! Valuation ดึงดูด-ปันผลจูงใจ ลุ้นผลงานครึ่งหลังฟื้นตัว

กลุ่มอสังหาฯ เทรดคึก! Valuation ดึงดูด-ปันผลจูงใจ ลุ้นผลงานฟื้นหลังคลายล็อคดาวน์


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจแบะรวบรวมบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่วานนี้ (26 พ.ค.2563) ราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง

โดยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ปิดที่ระดับ 0.82 ปรับตัวขึ้น 0.03 บาท หรือ 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131.94 ล้านบาท  

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN  ปิดที่ระดับ  53 บาท ปรับตัวขึ้น  2.25 บาท หรือ 4.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.37 พันล้านบาท  

บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ปิดที่ระดับ  2.60 บาท ปรับตัวขึ้น 0.12 บาท หรือ 4.84% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.08 ล้านบาท  

บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH  ปิดที่ระดับ 7.30 บาท ปรับตัวขึ้น 0.20 บาท หรือ 2.82% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 704.05 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า หุ้นในกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย มีความคาดหวังว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการ อาทิเช่น มาตรการ LTV รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเป็นผลประโยชน์ต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้านดีมีดาวน์, การลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ และจดจำนองสำหรับบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมถึงการผ่อนปรน LTV สำหรับบ้านหลังแรก และบางส่วนสำหรับบ้านหลังที่ 2

อย่างไรก็ดีมาตรการดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลบวกต่อการสร้างยอด Presale และยอดโอนฯ อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปัญหาสำคัญเกิดจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลาง-ล่าง ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของแบงก์ ยิ่งทำให้การเข้าถึงที่อยู่อาศัยมีความยากขึ้น สะท้อนจากผลประกอบการกลุ่มฯไตรมาส 1/63 ของผู้ประกอบการ 12 รายใหญ่ มีกำไรปกติ 5.35 พันล้านบาท (-43% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และ 52% จากไตรมาสก่อน)

ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/63 คาดยังไม่ดีขึ้น จากผลกระทบของโควิด-19 ที่มีผลต่อธุรกรรมการขายและโอนฯ ส่งผลให้ผู้ประกอบการเน้นใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อระบายสต๊อก ซึ่งย่อมกดดันต่อมาร์จิ้น

ทั้งนี้ แม้คาดหวังภาพรวมธุรกิจอสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น ตามสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับรอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่โดยปกติช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก สืบเนื่องจากการมีหลายโครงการคอนโดฯ ใหม่มีกำหนดสร้างเสร็จพร้อมโอนฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเฉพาะไตรมาส 4 แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังเรื่องสภาพเศรษฐกิจที่ยังอ่อนตัว และปัญหาเรื่องคุณภาพของ Backlog ว่าการโอนฯ ของลูกค้ามีประสิทธิภาพเพียงใด ซึ่งย่อมมีผลต่อการรับรู้รายได้และกระแสเงินสดของผู้ประกอบการตามมา

โดยจากการที่ราคาหุ้นหลายตัวปรับลงมาแรงในช่วงที่ผ่านมา จนมี Valuation น่าสนใจ และอัตราเงินปันผลอยู่ในระดับสูงเฉลี่ย 5-8% เป็นปัจจัยหนุนต่อการลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ภาวะดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง

ทั้งนี้ตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ LH (เป้า 8.00 บาท) ปันผลเฉลี่ย 6% และ AP (เป้า 6.30 บาท) มี PER ซื้อขายต่ำกว่า 6 เท่า นอกจากนี้การมี Backlog ระดับสูง หนุนให้ผลประกอบการไตรมาส 2/63 เติบโตจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และจากไตรมาสก่อน และต่อเนื่องไตรมาส 3/63 สวนทางกับภาพรวมกลุ่มฯ

ขณะที่ LPN (เป้า 3.40 บาท) แนะนำขาย หลังราคาหุ้นดีดตัวขึ้นแรงตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. มากถึง 60% โดยปราศจากปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน เนื่องจากภาพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังเผชิญกับการทรุดตัว สะท้อนจากลดลงของระดับ Backlog มาอย่างต่อเนื่อง

Back to top button