KTECH แจงกลุ่มทุนใหม่ล้มเทนเดอร์ฯ-ยกเลิกแผนเพิกถอน

บริษัท เคเทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTECH แจ้งว่าตามที่การประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 6 มี.ค. อนุมัติให้เพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสมัครใจ (Voluntary Delisting) และจะมีการพิจารณาในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 ในวันที่ 31 ก.ค.นั้น

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ได้อนุมัติให้ยกเลิกวาระขอเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เคยแสดงความสนใจที่จะสนับสนุนทางการเงินในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์และร่วมลงทุนกับบริษัท

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้บริษัทได้ดำเนินการตามกระบวนการเพิกถอนหลักทรัพย์โดยสมัครใจตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.63 แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันการแพร่ระบาดดังกล่าวกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างชะลอตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทประสบปัญหาในการประกอบธุรกิจและการบริหารสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท

นอกจากนี้ยังกระทบถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เคยแสดงความสนใจที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์และร่วมลงทุนกับบริษัท จากสถานการณ์ความผันผวนของตลาดทุนทุกประเทศทั่วโลกตั้งแต่เดือน มี.ค.63 เป็นต้นมา รวมทั้งสภาพตลาดหลักทรัพย์ในประเทศที่ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการลงทุนและอัตราผลตอบแทนการลงทุนอย่างรุนแรง ด้วยเหตุดังกล่าวจึงส่งผลกระทบต่อเจตนารมณ์ของบริษัท ที่มีความประสงค์จะขอเพิกถอนหลักทรัพย์ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยสมัครใจนั้น บริษัทจำเป็นต้องมีความชัดเจนในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว

ดังนั้น การที่นักลงทุนที่บริษัทได้ทาบทามไว้แจ้งชะลอการพิจารณาการลงทุนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการเพิกถอนหลักทรัพย์โดยสมัครใจได้แล้วเสร็จ คณะกรรมการได้พิจารณาถึงปัจจัยความเสี่ยงของสถานการณ์และตระหนักถึงความจำเป็นของแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่จะต้องเพียงพอต่อการดำเนินกระบวนการดังกล่าว จึงได้ยกเลิกวาระขอเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และยกเลิกการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 ก.ค.นี้