“ครม.” ไฟเขียว “กลุ่มบีบีเอส” พัฒนา “อู่ตะเภา-เมืองการบินฯ” นัดเซ็นสัญญา 19 มิ.ย.นี้!

"ครม." ไฟเขียว "กลุ่มบีบีเอส" พัฒนา "อู่ตะเภา-เมืองการบินฯ" มูลค่าลงทุน 2.9 แสนล้าน เบื้องต้นนัดเซ็นสัญญา 19 มิ.ย.นี้!


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดเผยจากแหล่งข่าวคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก ว่าวันนี้ (2 มิ.ย.63)​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนคือ กลุ่มบีบีเอส ร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก มูลค่าลงทุน 2.9 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มบีบีเอส ประกอบด้วย บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)​ หรือ BA บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน)​ หรือ BTS และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)​ หรือ STEC

โดยเบื้องต้น กำหนดวันลงนามสัญญากับเอกชนในวันที่ 19 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 9.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 เรื่องโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก

โดยรับทราบผลการคัดเลือกบริษัทเอกชนที่ได้รับสิทธิสัมปทานและเป็นผู้ร่วมลงทุน คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ซึ่งเป็นบริษัทที่เสนอเงินประกันผลตอบแทนค่าเช่าและส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำให้แก่รัฐได้สูงที่สุด

พร้อมทั้งอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับนิติบุคลลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยเอกชนที่ได้รับคัดเลือกโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก

นอกจากนี้ อนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินกระบวนการหรือขั้นตอน เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกชนที่จะเป็นผู้รับงานโครงการก่อสร้างทางวางวิ่งที่ 2 และทางขับไปพลางก่อน ระหว่างรอผลการพิจารณารายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่จะยังลงนามในสัญญาว่าจ้างกับผู้รับจ้างที่ได้รับการคัดเลือกไม่ได้จนกว่ารายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

อีกทั้งเห็นชอบให้กองทัพเรือขอรับการจัดสรรงบประมาณ กรอบวงเงิน 390 ล้านบาท สำหรับโครงการพัฒนาการให้บริการอุตุนิยมวิทยาการบิน ดำเนินการปี พ.ศ.2564 – 2566
และเห็นชอบให้กองทัพเรือขอรับการจัดสรรงบประมาณ จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2563 กรอบวงเงิน 31.2 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการรื้อย้ายระบบสายไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน

รวมทั้งเห็นชอบให้กองทัพเรือขอรับการจัดสรรงบประมาณ กรอบวงเงินไม่เกิน 468 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำสายไฟลงใต้ดินเพื่อเส่งเสริมสภาพพื้นที่สำหรับเมืองการบินภาคตะวันออก

น.ส.รัชดา กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ 6,500 ไร่ มีทั้งศูนย์ธุรกิจการค้าและการขนส่งสินค้า ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เขตประกอบการค้าเสรี ศูนย์ฝึกอบรมการบิน โดยมีผลตอบแทนด้านการเงิน มูลค่าปัจจุบัน 3.05 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดสัญญา ทรัพย์สินจะตกเป็นของรัฐ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโยชน์ในการสร้างรายได้จากภาษี ประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท มีการจ้างงานเพิ่ม 15,600 ตำแหน่งต่อปี ภายใน 5 ปีแรก

Back to top button