“ศักดิ์สยาม” คาดมอเตอร์เวย์ “นครปฐม-ชะอำ” พร้อมประมูลปีหน้า มูลค่าลงทุน 7.9 หมื่น ลบ.!

“ศักดิ์สยาม” คาดมอเตอร์เวย์ “นครปฐม-ชะอำ” พร้อมประมูลปีหน้า มูลค่าลงทุน 7.9 หมื่น ลบ.!


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะเปิดประมูลโครงการ มอเตอร์เวย์ สายนครปฐม-ชะอำ (M8) มูลค่าเงินลงทุนรวม 79,006 ล้านบาท ในรูปแบบ PPP Net Cost ในปี 64 หลังจากผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) แล้ว และเตรียมนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน และลดผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินให้มากที่สุด เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา

ขณะที่โครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง -วงแหวนฯ ซึ่งเชื่อมต่อทางยกระดับ บางขุนเทียน-เอกชัย จะแล้วเสร็จในปี 65 ทำให้การจราจรบนพระราม 2 คล่องตัวขึ้น แม้ประเมินว่าปริมาณจราจรในปี 65 จะเพิ่มขึ้นก็ตาม

นายศักดิ์สยาม กล่าวหลังจากลงพื้นที่ถนนพระราม 2 ว่า ในถนนพระราม2 จะมีการก่อสร้าง 2 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างทางยกระดับพระราม 2 สาย ธนบุรี-ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ของ ทล.และ โครงการทางพิเศษ  สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก (สัญญาที่2) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งได้ให้ทั้ง 2 หน่วยงานบูรณาการแผนการก่อสร้างเพื่อไม่ให้กระทบต่อการจราจรบนถนนพระราม 2

โดยขณะนี้ ทล.ได้ขยายถนนพระราม 2 เป็น 14 ช่องแล้วเสร็จและคืนผิวจราจรหมดแล้ว ดังนั้น จะทำให้ผู้รับเหมาของทั้ง 2 โครงการเข้าพื้นที่เริ่มการก่อสร้างได้ในวันที่ 8 ก.ค.นี้  โดยในช่วงของการก่อสร้างทางด่วน ช่วงต้นของถนนพระราม2 นั้น จะไม่มีการปิดช่องจราจรใดๆ เท่ากับ ถนนพระราม 2 ยังคงมีจำนวน 14 ช่องจราจรเท่าเดิม แต่จะใช้วิธีปรับลดขนาดความกว้างของช่องจราจร จาก 3.5 เมตร เหลือ 3 เมตร ซึ่งยังอยู่ในมาตรฐานความปลอดภัย เพราะขนาดรถยนต์มีความกว้างที่ 2.80 เมตร

ทั้งนี้ จะเปิดผิวจราจรเพื่อก่อสร้างทางด่วนและทางยกระดับตามแนวถนนพระราม 2 เป็นช่วงๆ ละประมาณ 1 กม.ตามความพร้อมของเครื่องจักร ส่วนบริเวณที่เป็นสะพานกลับรถ 6 จุดจะก่อสร้างในช่วงหลังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคอขวด โดยให้จัดทำแบบจำลองการปิดพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อประเมินผลกระทบจราจรและสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งโครงการจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี

“ได้กำชับให้ทั้ง 2 หน่วยงานทำประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบ นอกจากนี้ ในโครงการมีกล่อง CCTV สามารถตรวจสอบข้อมูลสภาพจราจรได้ผ่านแอพกรมทางหลวงและแอพฯทางด่วน เพื่อวางแผนการเดินทางได้ นอกจากนี้ จะมีการติดตั้งป้ายจราจรและสัญญาณไฟ  ตลอดพื้นที่ก่อสร้าง โดยขอให้ผู้ใช้ทางระมัดระวังขับรถในช่องจราจรที่กำหนดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจราจรและอุบัติเหตุ หลังจากเริ่มงานก่อสร้าง”

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล.กล่าวว่า ทล.จะเริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สาย ธนบุรี-ปากท่อ ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทางประมาณ 8.335 กม. โดยจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างจำนวน 2 จุดก่อน ได้แก่ กม.14+000 ถึง กม.15+000 และ กม.18+000 ถึง กม.20+295 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประสานงานด้านการจัดการจราจรกับท้องที่และตำรวจทั้งกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 และสน.แสมดำ พร้อมประชุมเชิงบูรณาการกับ กทพ.มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระหว่างการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ยังมีช่องจราจรจำนวน 12 ช่องจราจรเช่นเดิม (ทิศทางละ 6 ช่องจราจร) เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

Back to top button