“บลจ.กสิกรไทย” มองเป้า SET ครึ่งปีหลัง 1,400 จุด รับแบงก์ทั่วโลกอัดฉีดสภาพคล่อง

"บลจ.กสิกรไทย" มองเป้า SET ครึ่งปีหลัง 1,400 จุด รับแบงก์ทั่วโลกอัดฉีดสภาพคล่อง


นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า มุมมองตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งหลังปีนี้ มองเป้าหมายดัชนีไว้ที่ระดับ 1,400 จุด แต่ยังขึ้นกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไวรัส-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังด้วย เนื่องจากมีหลายประเทศที่การระบาดยังมีความรุนแรงอยู่ ส่วนผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/63 ของบริษัทจดทะเบียน ที่คาดว่าส่วนใหญ่จะออกมาค่อนข้างแย่นั้น ตลาดน่าจะรับรู้อยู่แล้ว

“สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ มุมมองของบริษัทจดทะเบียนต่อผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งยังคงคาดการณ์ค่อนข้างลำบากเนื่องจากขึ้นกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการเปิดประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดหุ้นน่าจะผ่านระดับต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสที่ 2 จากการมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางทั่วโลกทำให้สภาพคล่องอยู่ในระดับสูง” นางสาวธิดาศิริ กล่าว

โดยหลังจากที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ได้สิ้นสุดการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ยังคงต้องการลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนแบบเดียวกับกองทุน LTF เดิม แม้จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีก บลจ.กสิกรไทย จึงได้เพิ่ม Share Class กองทุน LTF จำนวน 8 กองทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

สำหรับทั้ง 8 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาว-A ชนิดสะสมมูลค่า (KEQLTF-A(A)), กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นระยะยาว-A ชนิดสะสมมูลค่า (KMSLTF-A(A)), กองทุนเปิดเค มินิมั่ม โวลาติลิตี้ หุ้นระยะยาว-A ชนิดสะสมมูลค่า (KMVLTF-A(A)), กองทุนเปิดเค เซ็ท 50 หุ้นระยะยาว-A ชนิดสะสมมูลค่า (KS50LTF-A(A)), กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (KDLTF-A(D)), กองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K70LTF-A(D)), กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K20SLTF-A(D)) และกองทุนเปิดเค โกรทหุ้นระยะยาวปันผล-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (KGLTF-A(D))

โดย กองทุน LTF ทั้ง 8 กองทุน จะมีนโยบายการลงทุน รวมถึงกลยุทธ์การบริหารจัดการเช่นเดียวกับกองทุน LTF เดิม ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของการเพิ่ม Share Class ในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ที่ยังคงชื่นชอบนโยบายการลงทุนของกองทุน LTF เดิม และเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดหุ้นไทยได้เข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนชนิดสะสมมูลค่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสะสมผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา (Capital Gain) ส่วนกองทุนชนิดจ่ายเงินปันผล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในรูปแบบของเงินปันผล

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย จะยกเว้นค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 และหลังจากนั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวในอัตรา 1.00% ของมูลค่าหน่วยลงทุน

Back to top button