วัคซีนต้าน “โควิด” ฝั่งจีนคืบ ทดลองระยะ 2 ปลอดภัย-ตอบสนองภูมิคุ้มกัน

จีนเผยความคืบหน้า การทดลองระยะที่ 2 ของวัคซีนต้าน “โควิด” ในกลุ่มตัวอย่าง 508 คน ผลปลอดภัย-ชักนำการตอบสนองภูมิคุ้มกัน


สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันจันที่ 20 ก.ค.63 เดอะแลนเซ็ต (The Lancet) วารสารทางการแพทย์ชื่อดัง เปิดเผยการทดลองระยะที่ 2 ของวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน พบว่าวัคซีนรายการดังกล่าวมีความปลอดภัยและชักนำการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันได้

โดยผลการทดลองครั้งนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากผู้เข้าร่วมการทดลองกลุ่มใหญ่กว่าระยะที่ 1 ซึ่งมีการเผยแพร่ผลการทดลองเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยการทดลองระยะที่ 1 มีกลุ่มทดลองเป็นผู้ใหญ่จำนวน 108 คน และมีผลลัพธ์น่าพึงพอใจ

“การทดลองระยะที่ 2 ช่วยเพิ่มพูนหลักฐานยืนยันความปลอดภัยและการตอบสนองภูมิคุ้มกันในจำนวนกลุ่มทดลองที่มากกว่าการทดลองระยะที่ 1 การทดลองนี้จึงเป็นย่างก้าวที่สำคัญในการประเมินวัคซีนทดลองระยะต้น และขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองระยะที่ 3” ศาสตราจารย์จูเฟิ่งไฉ จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประจำมณฑลเจียงซูของจีน กล่าว

แลนเซ็ต ระบุว่า การทดลองวัคซีนโรคโควิด-19 ชนิดใช้อะดิโนไวรัส ไทป์ 5 เป็นตัวนำพา (Ad5 vectored COVID-19 vaccine) จัดทำขึ้นที่นครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน โดยมีผู้เข้าร่วมทดลองจำนวน 508 คน เป็นผู้มีอายุ 18-44 ปี ราว 2 ใน 3, อายุ 45-54 ปี ราว 1 ใน 4 และอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13

ศาสตราจารย์เฉินเหว่ย จากสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพปักกิ่ง ระบุว่าเนื่องจากผู้สูงอายุมักเผชิญความเสี่ยงระดับสูงที่จะมีอาการป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคโควิด-19 คนกลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มทดลองเป้าหมายสำหรับวัคซีนโรคโควิด-19

          “เป็นไปได้ว่าอาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนปริมาณมากขึ้นเพื่อชักนำการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกว่าสำหรับผู้สูงอายุ แต่ยังต้องอาศัยการวิจัยเพิ่มเติมในการประเมินผล” เฉิน กล่าว

ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 นั้น บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั่วทุกมุมโลกกำลังแข่งกับเวลาเพื่อเร่งพัฒนาวิธีการรักษาและวัคซีนใหม่ๆ โดยจีนได้ให้คำมั่นว่าวัคซีนสำหรับโรคโควิด-19 จะกลายเป็นสินค้าสาธารณะที่เข้าถึงได้ทั่วโลก ทันทีที่พร้อมใช้งาน

ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรก็มีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนทดลองอีกรายการหนึ่ง การศึกษาอีกฉบับที่ได้รับการเผยแพร่ลงในวารสารเดอะแลนเซ็ตในวันเดียวกันได้เปิดเผยผลการทดลองวัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 ระยะ 1 และ 2 ซึ่งเป็นวัคซีนสำหรับโรคโควิด-19 ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดกำลังวิจัยอยู่ โดยวัคซีนไม่มีข้อน่ากังวลด้านความปลอดภัยในขั้นต้น ทั้งยังกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้

มหาวิทยาลัยเผยว่าการทดลองข้างต้นมีกลุ่มทดลองเป็นอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่สุขภาพดีมากกว่า 1,000 คน ผลปรากฏว่าวัคซีนกระตุ้นการตอบสนองของเซลล์ที (T cell) ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สามารถต่อสู้กับเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ได้ ภายใน 14 วันของการรับวัคซีน และกระตุ้นแอนติบอดีหรือโปรตีนภูมิคุ้มกันได้ภายใน 28 วัน

อย่างไรก็ดี ทีมนักวิทยาศาสตร์ในการทดลองดังกล่าวระบุว่าแม้ผลการทดลองจะน่าพึงพอใจ แต่ยังเร็วเกินกว่าจะทราบได้ว่าผลลัพธ์ดังกล่าวเพียงพอต่อการเสริมการป้องกันแล้วหรือไม่ โดยปัจจุบันกำลังดำเนินการทดลองในวงกว้างขึ้น

 

Back to top button