“วิชา มหาคุณ” ตั้ง 5 คณะทำงาน สางปมคดี “บอส อยู่วิทยา” เปิดรับข้อมูล-ความเห็นรอบด้าน

“วิชา มหาคุณ” ตั้ง 5 คณะทำงาน สางปมคดี “บอส อยู่วิทยา” เปิดรับฟังข้อมูลความคิดเห็นรอบด้าน ทั้งตำรวจ อัยการ และประชาชน เร่งทำให้เสร็จตามกรอบ 30 วัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ชุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง ได้ประชุมนัดแรกวานนี้ (3 ส.ค.63) เบื้องต้นตั้งคณะทำงานขึ้นมา 5 คณะ ประกอบด้วย คณะตรวจสอบทางอัยการ มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย เป็นประธาน , คณะตรวจสอบตำรวจ มีนายเข็มชัย ชุติวงศ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เป็นประธาน , คณะตรวจสอบบุคคลทั่วไป เช่น คณะกรรมาธิการตำรวจ พยาน ทนายความ มีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน , คณะตรวจสอบด้านกฎหมายโดยตรง มีนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธาน

รวมทั้ง คณะทำงานด้านไอที สารสนเทศ ซึ่งจะเปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและคำแนะนำ หากมีความเห็นที่เป็นประโยชน์จะนำมาประกอบการพิจารณาด้วย ตลอดจนทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลต่างๆที่อยากให้ประชาชนได้รับรู้

นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบฯ กล่าวว่า การประชุมนัดแรกได้รับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาร่วมกันให้ข้อเสนอแนะและข้อสังเกต ซึ่งจะนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อไป

นอกจากนั้น หากใครมีข้อมูลข่าวสารหรือมีความคับข้องใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในระบบ เช่น ตำรวจ อัยการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่เห็นด้วยกับคดีนี้ ก็สามารถส่งข้อมูลมายังคณะกรรมการได้โดยตรง เพราะต้องการข้อมูลที่รอบด้าน และยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น

ทั้งนี้ การทำงานคณะกรรมการใหญ่จะประชุมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพราะต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ขณะที่คณะทำงานชุดต่าง ๆ จะทำงานคู่ขนานกันไป เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) โดยทำหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียด เรียกฝ่ายต่างๆมาให้ความเห็น

นายวิชา กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าคณะอัยการจะสิ้นสุดการตรวจสอบคดีดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) จึงได้ให้ข้อแนะนำกับคณะกรรมการไปว่าต้องเชิญเลขาธิการของคณะของอัยการมาให้ถ้อยคำด้วย ก็เชื่อว่ายินดีให้ความร่วมมือ ซึ่งจะช่วยร่นระยะเวลาทำงานได้ด้วย เพราะผ่านการตรวจสอบมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่คณะกรรมการชุดนี้ฯจะไม่ได้ยึดตามนั้น เพราะต้องนำมาตรวจสอบเพิ่มเติม

รวมทั้งจะขอสำนวนคดีจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางอัยการและตำรวจ รวมถึงสำนวนคดีที่ทำมาตั้งแต่ต้นจาก สน.ทองหล่อ และอัยการที่ประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ เพราะต้องทราบรายละเอียดทั้งหมด ตลอดจนขอผลการศึกษาของ กมธ.ชุดของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เคยตรวจสอบเรื่องนี้ไว้มาพิจารณาด้วย

นอกจากนี้ต้องนำการตรวจสอบการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญในคดีนี้มาประกอบการพิจารณาด้วยเช่นกัน เพราะหากมีข้อสงสัยหรือข้อพิรุธในการเสียชีวิต ก็จะนำมาเชื่อมโยงกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลการชันสูตรศพล่าสุด

แต่อย่างไรก็ตาม เห็นว่าคงยังไม่จำเป็นต้องเชิญนายวรยุทธมาให้ถ้อยคำในขณะนี้ เพราะต้องตรวจสอบในส่วนที่ยังไม่รู้ให้รู้โดยเร็วที่สุดก่อน แต่ได้มอบหมายคณะทำงานแล้ว โดยเฉพาะชุดตรวจสอบบุคคลทั่วไป ก็จะไปพิจารณาว่าควรเชิญมาหรือไม่ รวมทั้งต้องพิจารณาว่าจะยกให้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอการศึกษาก่อน

สำหรับข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีสั่งทบทวนคดีหรือไม่นั้น ต้องดูว่าหากเสนอไปแล้ จะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะหากเสนอแล้วทุกอย่างต้องเป็นไปได้ และมีความแน่นอน เนื่องจากต้องศึกษากันอย่างถี่ถ้วน

ทั้งนี้ นายวิชา เปิดเผยว่า การนัดประชุมครั้งต่อไปวันที่ 5 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น.จะหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายอย่างละเอียด

 

Back to top button