สตช.เผย “จักรทิพย์” สั่งตั้งชุดพนง.สอบสวน ทำคดี “บอส” ใหม่ ไล่บี้เอาผิดตร. บกพร่องหน้าที่

คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ชุด สตช.เผย “จักรทิพย์” สั่งตั้งชุดพนง.สอบสวน ทำคดี “บอส” ใหม่ ไล่บี้เอาผิดตร. บกพร่องหน้าที่ ส่อเอี่ยว 14 ราย


พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี สตช.ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 55 กล่าวว่า หลังคณะกรรมการฯ ได้เสนอข้อสรุปผลสอบสวนให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ไปเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ผบ.ตร.มีข้อสั่งการใน 3 ประเด็น คือ

1.ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กรณีไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ 2.ตั้งชุดพนักงานสอบสวนทำคดีตามหลักฐานใหม่ และ 3.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจ 11 นายที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีบางรายที่ยังไม่ถูกลงโทษ แต่กลับมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ทำงาน ซึ่งอาจมีเพิ่มเติมอีก 3-4 นาย

ด้าน พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ยืนยันผลสอบเป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่มีการฟอกขาวตามที่มีการกล่าวหา โดยจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157

“วันนี้ผมจะแถลงข้อเท็จจริง fact ที่จับต้องได้ จะไม่มีการคาดเดา แถลงตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนสอบสวน ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก” พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ได้ชี้แจงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อปี 55 จนกระทั่งมีคำสั่งไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวน, ช่วงที่มีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมจากอัยการ และ ช่วงการทำความเห็นแย้ง โดยพบว่า 1.ไม่มีตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาเพื่อหาสารเสพติด 2.ไม่มีการเก็บหลักฐานคำให้การสอบสวนพยานเพิ่มเติมไว้ตามระเบียบ 3.ผู้ออกรายงานให้การไม่ตรงกับรายงาน และ 4.พนักงานสอบสวนไม่ออกหมายจับตามคำสั่งของพนักงานอัยการจนทำให้ผู้ต้องหลบหนีออกนอกประเทศไปได้

ก่อนหน้านี้พบข้อบกพร่อง 10 ประเด็น ได้แก่ ไม่สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปตรวจสอบบ้านพักของผู้ต้องหามาประกอบสำนวนคดี, ไม่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ต้องหาในทันที, ไม่นำผลตรวจวิเคราะห์สารเสพติดโคเคนเข้าพิจารณาทำความเห็นในข้อหาขับรถโดยประมาท, ไม่ตั้งข้อหาเสพโคเคน, ผู้กำกับ สน.ทองหล่อ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนไม่กำกับดูแลการสอบสวนอย่างใกล้ชิดทั้งที่เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน, ทำสัญญาประกันปล่อยตัวผู้ต้องหาบกพร่อง เป็นต้น

ส่วนผลสอบ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กรณีไม่แย้งคำสั่งอัยการนั้น ไม่พบความผิด เนื่องจากการแย้งคำสั่งจะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายและกฎระเบียบว่าอัยการอ้างถูกต้องหรือไม่ และมีพยานที่สามารถกลับคำเห็นของอัยการได้เท่านั้น

สำหรับผลสอบเรื่องความเร็วของรถผู้ต้องหานั้น พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากสอบผู้เชี่ยวชาญแล้วคณะกรรมการฯ เชื่อว่ามีความเร็วที่ถูกต้องควรจะเป็น 177 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือมากกว่า 80  กิโลเมตร/ชั่วโมงแน่นอน

 

 

Back to top button