2 หุ้นโบรกเกอร์สุดซี๊ด!อัพไซด์สูงเกินกว่า 30%

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลพบว่า หุ้นในกลุ่มโบรกเกอร์ที่มีส่วนต่างจากมูลค่าหุ้นตามบัญชีที่น่าสนใจมีอยู่ด้วยกันหลายตัว และด้วยการสกรีนหุ้นที่ใช้ตัวเลขกำไรเป็นที่ตั้ง จึงเหลือหุ้นเพียง 2 ตัวเท่านั้น ที่น่าทยอยซื้อเก็บไว้ในพอร์ต บวกกับอัพไซด์ของหุ้นมากกว่า 30% จึงกลายเป็นดาวเด่นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง


ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หุ้นพื้นฐานดีหลายตัวได้รับผลกระทบตามไปด้วย จนราคาหุ้นในกระดานมีราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) และกลายเป็นจังหวะดีในการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตลงทุน เพราะมีโอกาสสูงที่ราคาหุ้นในกลุ่มนี้จะกลับขึ้นมาใกล้เคียงกับระดับที่ควรจะเป็น หากภาวะตลาดกลับเข้าสู่ปกติ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่จะฟื้นตัวได้ดีตามภาวะตลาด

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลพบว่า หุ้นในกลุ่มโบรกเกอร์ที่มีส่วนต่างจากมูลค่าหุ้นตามบัญชีที่น่าสนใจมีอยู่ด้วยกันหลายตัว และด้วยการสกรีนหุ้นที่ใช้ตัวเลขกำไรเป็นที่ตั้ง จึงเหลือหุ้นเพียง 2 ตัวเท่านั้น ที่น่าทยอยซื้อเก็บไว้ในพอร์ต บวกกับอัพไซด์ของหุ้นมากกว่า 30% จึงกลายเป็นดาวเด่นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

 

broke20150827

 

โดยหุ้นตัวแรกได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS โดยวานนี้ (26 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 2.96 บาท ปรับตัวลง 0.02 บาท หรือ 0.67% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบวัน ขณะที่ราคาสูงสุดของวันอยู่ที่ 3 บาท มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 0.19 ล้านบาท มีอัพไซด์จากมูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) 33% 

ขณะที่บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 มีกำไรสุทธิ 17.25 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.03 บาทต่อหุ้น ลดลง 49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 33.96 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.06 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 71.99 ล้านบาท หรือ 0.13 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 197% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 24.24 ล้านบาท หรือมีกำไรทุนสุทธิ 0.04 บาทต่อหุ้น

 

ตัวที่สอง บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ TNITY  โดยวานนี้ (26 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 5.95 บาท  ปรับตัวลง 0.15 บาท หรือ 2.46% โดยระหว่างวันทำระดับสูงสุดที่ 6 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 5.80 บาท มีมูลค่าการซื้อขาย 2.51 ล้านบาท มีอัพไซด์จากมูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) 32%

ขณะที่บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 มีกำไรสุทธิ 21.01 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.106 บาทต่อหุ้น ลดลง 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.78 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.191 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 70.16 ล้านบาท หรือ 0.355 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 57.74 ล้านบาท หรือมีกำไรทุนสุทธิ 0.292 บาทต่อหุ้น

 

*อนึ่งทีมงานข่าวฯหุ้นนำเสนอข้อมูลเพื่อให้นักลงทุนเตรียมตัวรับมือในการลงทุนที่ผันผวน และหุ้นข้างต้นน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเมื่ออ่อนตัวลงมาหนักๆ อีกครั้ง และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

 

Back to top button