ปากพาซวย..หุ้นพารวย

*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องเปิดเรื่องด้วยการเมืองแบบเจ็บ ๆ แสบ ๆ คัน ๆ เพื่อชี้ให้เห็นว่า น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ที่ไปร่วมม็อบเด็กเลวควรกลับเข้าห้องเรียนเพื่อไปหาความรู้ให้ตัวเองเถอะลูก ! เพราะการดีเบตเมื่อวันก่อนได้เปรยตัวตนของคนที่เป็นผู้นำม็อบอย่างแท้ทรู จึงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายไปกว่านี้ เพราะอาจเป็นการซ้ำเติมเด็ก ๆ ให้บอบช้ำหนักขึ้นไงละคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องเปิดเรื่องด้วยการเมืองแบบเจ็บ ๆ แสบ ๆ คัน ๆ เพื่อชี้ให้เห็นว่า น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ที่ไปร่วมม็อบเด็กเลวควรกลับเข้าห้องเรียนเพื่อไปหาความรู้ให้ตัวเองเถอะลูก ! เพราะการดีเบตเมื่อวันก่อนได้เปรยตัวตนของคนที่เป็นผู้นำม็อบอย่างแท้ทรู จึงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายไปกว่านี้ เพราะอาจเป็นการซ้ำเติมเด็ก ๆ ให้บอบช้ำหนักขึ้นไงละคะ

*ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นจุดตายที่บังคับให้ม็อบต้องเลิกแถเสียที และยังทำให้ม็อบคณะราษฎรไปต่อยากอย่างแน่นอน บวกกับสังคมเริ่มไม่เอาด้วยกับการปิดถนนและท่าทีหยาบคายแบบสนุกไปวัน ๆ แถมยังพร่ำพรรณนาเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายแบบลอย ๆ เลยทำให้ความชอบธรรมในการเรียกร้องต่าง ๆ มลายสิ้นในทันที ซึ่งทำให้สังคมเชื่อว่า มีพวกอีแอบคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง..เดี๊ยนเลยไม่อยากเห็นชีวิตของน้อง ๆ ต้องจบลงที่ “ค-อุ-ก” นะคะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงอยากให้ทุกคนตระหนักใน “เรื่องจริง” กับ “เรื่องมโน” มากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงเข้าไปในเกมของคนอื่น “โมนิก้า” ถึงไม่ยี่หระเมื่อเห็นดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,408.31 จุด ลบไป 29.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.2 แสนล้านบาท เพราะเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นถี่ยิบในช่วงเปลี่ยนถ่ายฐานใหม่ เดี๊ยนถึงมองการลงทุนในเที่ยวนี้เป็นโอกาสทองสำหรับคนที่ชอบเล่นรอบพะยะค่ะ

*เหมือนกับไอพีโอน้องใหม่ไฟแรงอย่างหุ้น JR กลายเป็นช็อตที่ผู้คนจำนวนมากกล่าวถึงอย่างมากมาย เพราะเมื่อดูสตอรี่กำไรโตอย่างน้อยอีก 3 ปีต่อเนื่องโดยไม่ต้องทำอะไร ย่อมเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาไล่เก็บหุ้นแบบจัดหนัก แถมเมื่อดูโอกาสของการทำให้กำไรโต 3 เท่าตัวในปี 64 “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า การยืนปิดที่ 7.30 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 32.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.58 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ไปต่ออย่างไม่ต้องสงสัย..หากไม่เชื่อ ก็คอยดูกันต่อไปนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่ขึ้นมาเรื่อย ๆ แบบเหนื่อยก็พักอย่าง IVL กลายเป็นโมเมนตัมที่น่าสนใจสำหรับ “โมนิก้า” ในทันที เพราะการขยับจากฐาน 22 บาท ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 32 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.79% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.95 พันล้านบาท โดยใช้เวลาแค่ 1 เดือน เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดธุรกิจปิโตรเคมีพ้นจุดต่ำสุดอย่างแน่นอน วันนี้จึงเหลือแค่ว่า กำไรจะมาตามนัดไหม ?..อิอิอิ

*คล้ายกับกรณีของหุ้น COM7 ทำท่าเหมือนจบรอบในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทันทีที่มีการเปิดตัวโทรศัพท์ไอโฟน 12 ยอดขายกระฉูด แรงซื้อก็ไหลกลับเข้ามาถล่มทลาย จนหุ้นบวกสวนภาวะตลาดที่แดงแป๊ดอย่างมั่นคง และตอนจบถึงจะลดความร้อนแรงมาบ้าง แต่ก็ยังสามารถยืนปิดที่ระดับ 41 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 817.08 ล้านบาท ย่อมเป็นแรงกระตุ้นให้ขาประจำลุยต่อจนขึ้นไปถึง 45 บาทอีกรอบกระมั้ง..แมงลือว่าไว้อย่างนั้นเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องลุย ๆ และมีข่าวดีซัพพอร์ต “โมนิก้า” คงเลือกมองไปที่หุ้น GUNKUL เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อที่เข้ามาต่อเนื่อง จนราคาหุ้นขยับจากฐาน 2 บาทเมื่อต้นเดือน และยังสามารถยืนปิดบวกที่ระดับ 2.50 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.81% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 145.36 ล้านบาท ท่ามกลางค่า P/E 9.70 เท่า โดยครั้งก่อนขึ้นไปทำยอดไว้บริเวณ 3 บาท  มันทำให้หุ้นพลังงานตัวนี้น่าสนใจขึ้นเป็นกองนะจะบอกให้

*สำหรับม้ามืดที่มาแรงแซงทางโค้งอย่าง UPA กลายเป็นทีเด็ดสำหรับพวกชอบเสี่ยงในทันที หลังมีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาดันหุ้นแบบสุดลิ่ม จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาชนซิลลิ่งปิดที่ 0.26 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 219.23 ล้านบาท  ซึ่งเป็นความคึกคักที่ไม่เคยเห็นในรอบหลายเดือน “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนมองสตอรี่เทิร์นอะราวด์เป็นหลัก เพื่อมองเป้าแรกที่หุ้นควรจะไปถึงอยู่บริเวณบุ๊ก 0.37 บาทอะป่าว ?

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามอง “หุ้นไซส์เล็ก กำไรโต” อย่างน้องดูดี DOD เป็นรายถัดมา เพราะตามท้องเรื่องคาดเดากันว่า กำไรต่อหุ้นปี 63 จะอยู่ราว ๆ 0.55 บาท และเมื่อนำมาใส่สูตร P/E 20 เท่าเพื่อประเมินราคาเหมาะสม ราคาหุ้นก็ควรอยู่แถว 11 บาทเป็นอย่างต่ำ แถมยอดเดิมที่ทำไว้อยู่แถว 10 บาท จึงเป็นหุ้นที่น่าสนใจมาก ๆ เมื่อเทียบกับวานนี้ปิดที่ 9.20 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 1.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58.98 ล้านบาท ไงล่ะค่ะ

Back to top button