NRF จับมือ 2 พันธมิตร ปั้นแบรนด์สินค้า “Plant-Based Food” เล็งเปิดตัวปี 64

NRF จับมือ 2 พันธมิตร ปั้นแบรนด์สินค้า “Plant-Based Food” เล็งเปิดตัวปี 64


นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช (Plant-Based Food) ในปี 64 คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่บริษัทเริ่มนำเข้าสินค้า Plant-Based Food เพื่อขยายตลาดในประเทศ พร้อมทั้งได้ถือหุ้นเพิ่มเติมอีก 25% ใน Plant and Bean Ltd. ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตประมาณ 3,400 ตันต่อปี ให้เป็น 36,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับยอดคำสั่งซื้อในกลุ่ม Plant-Based Food

นอกจากนี้ ยังได้เริ่มลงทุนร่วมกับพันธมิตร 2 ราย เพื่อพัฒนาแบรนด์ใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวสินค้าได้ในปี 64 คือ บริษัท โอเชียน ฮักเกอร์ (Ocean Hugger Food) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ผลิตชูซิ Plant-Based โดย NRF ถือหุ้น 88% และ บริษัท Konscious Inc ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในสหรัฐอเมริกา ภายใต้การถือหุ้นของ Plant & Bean (บริษัทในเครือของ NRF) ในสัดส่วน 40% ร่วมกับ Mr.Yves Potin ที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Gardien ซึ่งผลิตสินค้าในกลุ่ม Plant-Based Food ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ถือหุ้น 40% และ กองทุน Zynik Capital ถือหุ้น 20%

เรายังเดินหน้านำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจตามแผนการที่เคยวางไว้ ซึ่งจะช่วยต่อยอดการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคต และช่วยหนุนฐานการผลิตสินค้าให้สามารถรองรับยอดคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ การที่ NRF ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยมีทั้งนักลงทุนรายใหญ่ รายเล็ก หรือแม้กระทั่งบริษัทสตาร์ทอัพ เข้ามาติดต่อให้ผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด…และจากการร่วมลงทุนกับพันธมิตรก็จะส่งให้ผลการดำเนินงานของ NRF เติบโตเร็วกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน”นายแดน กล่าว

ส่วนการที่บริษัทจะใช้เงิน 170 ล้านบาทเข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีก 84.99% ในบริษัท ซิตี้ฟูด จำกัด ส่งผลให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 99.99% นั้น เพื่อเป็นการขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารท้องถิ่น (Ethnic Food) และเป็นฐานการผลิตในประเทศที่สำคัญ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทันทีหลังจากเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนด้านระบบเพิ่มเติมในอนาคตอีกประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการผลิต โดยจะนำเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและการบริหารจัดการข้อมูลเข้ามาใช้ คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 35% จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 19,000 ตันต่อปี สำหรับยอดขาย ซิตี้ฟูด ในงวด 9 เดือนของปี 63 ทำได้ 314 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 298 ล้านบาท

โดยปัจจุบัน ซิตี้ฟูดมีโรงงาน  2 แห่ง ที่จังหวัดนครปฐมและราชบุรี ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องปรุงรสภายใต้ตราสินค้า “คลาสสิคไทย” และน้ำนมถั่วเหลืองตรา”ชินโป” รวมถึงการรับจ้างผลิตอาหารชนิดต่าง ๆ ให้กับแบรนด์อาหารระดับโลกอีกมาก ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมรับจ้างผลิตอาหาร และเพื่อสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท ที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทที่มีรูปแบบพร้อมรองรับกระแสนิยมแห่งอนาคต (Mega Trend) การลงทุนเพิ่มเติมในซิตี้ฟูดจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิต และพร้อมปรับปรุงโรงงานผลิตของซิตี้ฟูด ให้มีความพร้อมสำหรับการรับจ้างผลิตอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น โรงงานสำหรับผลิตโปรตีนจากพืชโดยเฉพาะ โรงงานที่ปราศจากถั่ว (Nut-free) เป็นต้น

Back to top button