จัดกลยุทธ์ลงทุนเดือนธ.ค.โบรกฯแนะสะสมหุ้นพื้นฐานแกร่ง 6 ธีมเด่น

จัดกลยุทธ์ลงทุนเดือนธ.ค.โบรกฯแนะสะสมหุ้นพื้นฐานแกร่ง 6 ธีมเด่น


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมกลุ่มหุ้นที่น่าลงทุนสำหรับเดือนธันวาคม 2563 โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลจาก โบรกเกอร์ชั้นนำของไทย อาทิ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี,บล.ทิสโก้ และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินการแกว่งตัวของ SET Index อยู่ในกรอบ 1,390-1,500 จุด เพื่อลดความร้อนแรงหลังจากปรับตัวขึ้นราว 20% ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

ดังนั้นธีมการลงทุนเดือนนี้จึงแนะนำให้นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ตลาดมีการปรับฐาน โดยเน้นลงทุนหุ้นพื้นฐานแกร่ง 6 ธีมเด่น อาทิ หุ้น Top picks ปี 2563 ,หุ้นปันผลเด่น Dividend Play,หุ้นที่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวของกำไรโดดเด่นในปี 2563 Turnaround Play และหุ้นะถูกเลือกเข้า SET50 รอบใหม่ ตามบทวิเคราะห์ระบุไว้ดังนี้

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี  ระบุว่า SET Index ในเดือนพ.ย. ปรับขึ้นมามากถึง 214 จุด หรือเพิ่มขึ้น 17.9% (จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศกว่า 3.26 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถือเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวดีที่สุดในเอเชียในเดือนพ.ย. หลังจากที่ 10 เดือนแรกของปีนี้ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนแย่ ที่สุดในเอเชียคือ ลดลง 24.4%

อย่างไรก็ตามแม้ fund flow จะเริ่มมีการขายออกมาในวันที่ 30 พ.ย.สูงถึง 4,372 ล้านบาท แต่เป็นการขายมา จากการทำ MSCI Rebalancing ซึ่งตลาดหุ้นไทยถูกปรับลดน้ำหนักลง 114 ล้านเหรียญหรือ ประมาณ 3.4 พันล้านบาท แต่เชื่อว่า fund flow จะยังไม่ออกจากประเทศไทยเมื่อพิจารณาจากค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

โดยมองว่าการที่ตลาดมีการปรับฐานลงมาบ้างก็เป็นโอกาส ดีในการเข้าซื้อ จากความคาดหวังกำไรของตลาดหุ้นไทยจะกลับมาฟื้นตัวโต 30% ในปี 2564 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้นจึงมีการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของผลตอบแทนในเดือนธ.ค. ย้อนหลัง 12 ปีตั้งแต่ปี 2551-2562 เพื่อพิจารณาจังหวะการเข้าซื้อ (market timing) โดยจะพบว่าผลตอบแทนของ ตลาดหุ้นไทยโดยเฉลี่ยในเดือนธ.ค. จะอยู่ที่ 0.76% แต่หากตัดปี 2551 ที่เป็นปีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ (Hamburger crisis) ซึ่งตลาดมีความผันผวนสูงออก จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือนธ.ค. อยู่ที่ -0.22% โดยความน่าจะเป็นที่ตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกในเดือนธ.ค. อยู่ที่ 67% (บวก 8 ใน 12 ปี)

ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง Dowjones และ S&P 500 ต่างให้ผลตอบแทนเป็นบวก 0.52% และ 0.60% ตามลำดับ โดยมีความน่าจะเป็นที่เดือนธ.ค. จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกอยู่ที่ 67% และ 75% ตามลำดับ หากศึกษาเพิ่มเติมว่าหากในเดือนพ.ย. ผลตอบแทนของ ตลาดหุ้นไทยเป็นบวก (เดือนพ.ย.63 เป็นบวกถึง 17.9%)

ด้านเดือนธ.ค. จะให้ผลตอบแทนเป็นอย่างไรจะ พบว่า มี 6 ใน 12 ปีที่เดือนพ.ย. ให้ผลตอบแทนเป็นบวก แต่ใน 6 ปีนั้นจะมีถึง 5 ปีที่ตลาดหุ้นไทยจะยังคงบวกต่อเนื่องในเดือนธ.ค. คิดเป็นความน่าจะเป็น 83.3%

ดังนั้นด้วยการฟื้นตัวของผลกำไรในปี 2564, fund flow ที่มีโอกาสไหลกลับเข้ามาต่อเนื่อง และ upside จากเป้าหมายดัชนีในปี 2563 ของ CGS-CIMB ที่ 1520 จุด โดยแนะนำให้นักลงทุนทยอยสะสม หุ้นในช่วงที่ตลาดมีการปรับฐานที่ระดับ 1380-1400 จุดในเดือนนี้ • CGS-CIMB Alert ได้แก่

(1.) CGS-CIMB Top picks 2563 : BBL KBANK LH PTT DTAC MAKRO MEGA TVO CHG

(2.) Value Play : DIF BCH MAKRO TU CBG LH TMB CPALL ADVANC TVO OSP MEGA

(3.)Laggard Play : HANA TVO TKN MTC TU CHG BCH ADVANC INTUCH MEGA CBG

(4.)Dividend Play : JASIF (9.9%) DIF (7.8%) QH (6.5%) PSH (6.3%) LH (5.8%) AP (5.6%) TVO (5.5%) SPALI (5.5%)

(5.)Turnaround Play : หุ้นที่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวของกำไรโดดเด่น (หรือพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร) ในปี 2563 ที่น่าสนใจลงทุนประกอบด้วย CRC PLANB PTTGC TOP SPRC M CK CPN PTT WHA

(6.)SET50 Reshuffle Play : ตลาดคาด BAM COM7 DELTA จะถูกเลือกเข้า SET50 รอบนี้และถอด BPP IRPC WHA ออก

 

ด้านบล.ทิสโก้  กลยุทธ์การลงทุน : การเก็งกำไร-เทรดดิ้งระยะสั้น ใช้กรอบ SET 1390-1450 ลงซื้อ-ขึ้นขาย / พอร์ตลงทุน แนะถือลงทุน-หาจังหวะสะสมเพิ่ม, ลุ้น Foreign Fund Flows ไหลเข้าต่อเนื่อง หนุน SET ขึ้นทะลุระดับ 1500 ในช่วงไตรมาส 1/64  หุ้นเด่น ธ.ค. (Smart Tactics) BAM, BJC, CPN, KKP, RATCH, SCC, STEC, TVO

 

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส กลยุทธ์การลงทุนเดือน ธ.ค. ประเมินการแกว่งตัวของ SET Index ในกรอบ 1,390-1,500 จุด ลดความร้อนแรงหลังจากปรับตัวขึ้นราว 20% ในเดือน พ.ย. Sentiment โดยรวมยังเป็นบวกจากธีม Back to Normal หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯและผลการทดสอบวัคซีน COVID-19 ระยะที่ 3 ที่ออกมาในเชิงบวก ทำให้ยังมีคาดหวังว่าการค้าโลกและการเดินทางระหว่างประเทศจะทยอยกลับสู่ภาวะปกติในปีหน้า หนุนกระแสเงินทุนให้ไหลเข้า

ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศโดยรวมยังไม่กดดัน แต่ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ประเมินว่าหุ้นที่ยัง Laggard รวมถึงหุ้นที่ปรับฐานในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาจะมีโอกาสกลับมา Outperform จากการเกิด Sector-Stock Rotation หุ้นแนะนำเดือน ธ.ค. ได้แก่ HANA, JWD, MTC, SYNEX, TVO

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button