หุ้น MCOT และยาจกใจอารี

หลักทรัพย์อสมท หรือชื่อย่อ “MCOT” มีความเคลื่อนไหวที่พิลึกกึกกือมาก...มีแต่ข่าวเลวร้ายในเรื่องของผลประกอบการ แต่ราคาหุ้นวิ่งระเบิดมา 7 วันทำการซ้อนแล้ว


ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

หลักทรัพย์อสมท หรือชื่อย่อ “MCOT” มีความเคลื่อนไหวที่พิลึกกึกกือมาก…มีแต่ข่าวเลวร้ายในเรื่องของผลประกอบการ แต่ราคาหุ้นวิ่งระเบิดมา 7 วันทำการซ้อนแล้ว

เริ่มแต่วันจันทร์ที่ 23 พ.ย. ราคาวิ่งจาก 2.82 บาท ขยับราคาขึ้นทุกวันมาจนถึงพุธที่ 2 ธ.ค. ราคาปิดที่ 4.92 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 2.10 บาท หรือร้อยละ 74.46 บางวันอย่างเช่นเมื่อ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา หุ้น MCOT วิ่งโชว์ ชนซิลลิ่งให้ดูเป็นขวัญตาเสียเลย

หุ้นวิ่งคึกเป็นม้า มีอะไรดีกันเนี่ย!

จะว่าวิ่งรับข่าวผลประกอบการหรือ ก็ขอบอกว่า “ไม่มีทาง” เพราะผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีตัวเลขขาดทุนสูงถึง 105 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรก ขาดทุนไปแล้วถึง 1,167 ล้านบาท

ถามว่าไตรมาส 4 ที่เหลือ (ต.ค.-พ.ย.-ธ.ค.) จะมีอะไรดีให้อสมท รอดพ้นการขาดทุนได้ไหม ก็ตอบได้เลยว่า อภินิหารคงไม่พอ ต้องโคตรอภินิหารเท่านั้น ถึงจะรอดพ้นการขาดทุนได้

อสมท จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียน 3,435 ล้านบาท มีผลดำเนินงานขาดทุนสะสม ณ สิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทะลุ 2,800 ล้านบาทไปแล้ว ถ้าไม่มี “ส่วนล้ำมูลค่าหุ้น” จำนวน 1,100 ล้านบาทมาช่วย ส่วนทุนก็ใกล้จะติดลบไปแล้ว

กระแสเงินสดก็คงไม่สู้จะดีนัก เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ยังต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศเกือบ 700 ล้านบาท มาจ่ายเพื่อการเลิกจ้างพนักงานก่อนเกษียณฯ อยู่เลย โดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ เป็นที่ดิน 2 แปลง และเงินเยียวยาคลื่น 2600 เมกะเฮิร์ตที่กสทช.ชดเชยให้

น่าแปลก! เป็นหุ้นที่ไม่มีผลประกอบการรองรับ และขาดแคลนกระแสเงินสดหมุนเวียนอย่างรุนแรง อนาคตกิจการก็ยังอยู่ในวังวน “ดิสรัปชั่นสื่อ” และไม่เห็นการยกเครื่ององค์กรแต่ประการใด แต่หุ้นดันวิ่งเป็นกระทิงมา 7 วันซ้อนได้อย่างไร

มีแต่ข่าวทีมงานเก่าเนชั่น จะเข้ามาทำรายการช่อง 9 ซึ่งก็ยังเป็นข่าวเลื่อนลอย และถึงจะเป็นข่าวจริง ก็ไม่น่าจะมีนัยสำคัญอะไรที่จะพลิกสถานะกิจการให้กลับมามีอนาคตได้

ผมยังอยากให้ก.ล.ต.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบความผิดปกติในการเคลื่อนไหวของหุ้น MCOT ด้วยซ้ำไป เพราะผิดปกติเอามากๆ

ท่ามกลางสถานะกิจการอันร่อแร่ อสมทก็ยังมีเรื่องโชคดีจากการได้รับเงินเยียวยาคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ ที่กสทช.เรียกคลื่นคืน เพื่อนำไปจัดสรรใหม่แก่ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 5จี เป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,235,836,755.93 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเป็น 7 งวด ตั้งแต่ปี 2563-2573

ว่าที่จริง คลื่นดังกล่าวก็เป็นสมบัติของแผ่นดินล่ะครับ อสมทได้เปล่าไปฟรี ๆ และยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมากมายนัก เมื่อกสทช.เรียกคลื่นก็ยังให้เงินเยียวยาตั้ง 3.2 พันล้านบาท

เงินก้อนนี้ น่าจะช่วยแก้ปัญหาชีวิตที่เป็นขาลงอย่างแรงของอสมทได้เป็นอันดี แต่อสมทก็ดันทำตัวเป็นม้าอารี นำเงินไปแบ่งครึ่งให้กับบริษัทคู่สัญญาที่ชื่อ “บริษัทเพลย์เวิร์ค” เสียนี่

การจ่ายเงินงวดที่ 1 จำนวน 146,329,979.98 ล้านบาท ผ่านไปแล้วในปีนี้ และอสมทก็ทำตัวซื่อสัตย์ เอาเงินไปประเคนให้กับคู่สัญญาเอกชนของตนแล้วเป็นจำนวนครึ่งหนึ่ง หรือ 73,164,989.99 ไม่ขาดตกบกพร่องสักประการ

เหตุต้องจ่ายเงินชดเชยให้บ.เพลย์เวิร์คด้วย อสมทอ้างเหตุว่า เพลย์เวิร์คเป็นผู้ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันกับอสมท เพราะเป็นคู่สัญญากับอสมทในการประกอบกิจการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกในระบบดิจิทัล หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเคเบิลทีวีนั่นเอง

บริษัทชื่อดังกล่าว ค่อนข้างจะ “โนเนม” มาก แม้แต่ที่ตั้งบริษัทก็ยังลึกลับซับซ้อน ต้องบอกเลยว่า มิได้ดำเนินกิจการร่วมกับอสมทอย่างเป็นเนื้อเป็นหนังสักเท่าไหร่นัก เป็นเคเบิลทีวีแบบไหน ไม่มีใครรู้จัก ซึ่งก็น่าจะอนุมานได้ว่า มิได้ใช้เงินลงทุนอะไรมากมายนัก

แต่อสมทสมัยคุณเขมทัตต์ พลเดชกลับใจดีอย่างผิดมนุษย์มนา ได้เงินเยียวยามาเท่าไหร่ อสมทแบ่งครึ่งในราว 1.6 พันล้านบาทให้หมด

ทั้งนี้ ไม่มีการสืบค้นกันเลยว่า บริษัทเพลย์เวิร์คลงทุนไปเท่าไหร่ ฐานะบริษัทมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน และกิจการที่ทำมีศักยภาพเพียงใด เพื่อจะได้คำนวณค่าเสียโอกาสที่อาจจะมีกันได้

คุณเขมทัตต์เธออ้างว่า เป็นอำนาจผอ.อสมท อนุมัติเงินเยียวยาคู่สัญญาแทนบอร์ดได้ แต่บอร์ดก็พร้อมใจกันลาออก เพื่อหนีความมัวหมองที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไป 4-5 คน จนแม้กระทั่งเลขานุการบอร์ดก็ยังลาออกจนผอ.อสมทต้องลงไปรักษาการแทนด้วยซ้ำ

อสมทกำลังเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองให้กสทช.จ่ายเงินเยียวยาอสมทกับเพลย์เวิร์คใน “จำนวนเท่าๆ กัน” อยู่ครับ ซึ่งหากฟ้องสำเร็จ อสมทจะรับเงินเยียวยา 3.2 พันล้านบาทไปเต็ม ๆ

บริษัทเพลย์เวิร์ค บริษัทกระจอกใต้อาณัติของบิ๊กเบิ้มในรัฐบาลย่านลาดพร้าว ก็จะถูกหวยได้เงิน 3.2 พันล้านบาทตามไปด้วย

นี่ก็หน้าที่ของก.ล.ต.-ตลาดหลักทรัพย์ ที่ผมอยากให้ทำการตรวจสอบเหมือนกันครับ เพื่อพิทักษ์ประโยชน์ ทางได้ทางเสียของผู้ลงทุน

Back to top button