ปิดตำนาน ‘สโกเทียอินไทยแลนด์’

การซื้อขายรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้นธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ทั้งกระดานในประเทศและต่างประเทศ รวมกว่า 4,406 ล้านหุ้น หรือ 4.57% เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.63 โดยธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย (BNS) ขายให้นักลงทุนสถาบันและกองทุนต่าง ๆ กว่า 77 รายการ หลังมีการทยอยขายหุ้น TMB ออกมาต่อเนื่องช่วงก่อนหน้านี้


เมกะเทรนด์ : สุภชัย ปกป้อง

การซื้อขายรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้นธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ทั้งกระดานในประเทศและต่างประเทศ รวมกว่า 4,406 ล้านหุ้น หรือ 4.57% เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.63 โดยธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย (BNS) ขายให้นักลงทุนสถาบันและกองทุนต่าง ๆ กว่า 77 รายการ หลังมีการทยอยขายหุ้น TMB ออกมาต่อเนื่องช่วงก่อนหน้านี้

ปรากฏการณ์ “ขายล้างพอร์ต” หุ้น TMB ดังกล่าว ถือเป็นการปิดตำนานการลงทุนในประเทศไทยของธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย (BNS) ที่มียาวนานร่วม 40 ปี หลังจากเริ่มเข้ามาลงทุนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 โดยให้บริการด้านธุรกรรมการเงินภาคธุรกิจและภาคการค้า ตลอดจนให้บริการด้านการปริวรรตเงินตราให้บริษัทไทยและบริษัทต่างชาติ

แต่เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย Single Presence Policy ของธนาคารแห่งประเทศไทย สินทรัพย์ในส่วนของสาขาของโนวาสโกเทียในไทย จึงถูกขายต่อให้ธนาคารธนชาต เพื่อให้ดำเนินการต่อไป จากนั้นปี 2550 โนวาสโกเทีย (ธนาคารสัญชาติแคนาดา) ได้เข้าถือหุ้น 24.99% ในธนาคารธนชาต (TBANK) ที่เป็นธนาคารผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย การเข้าถือหุ้นดังกล่าว เป็นการเข้าซื้อหุ้นครั้งนั้น เป็นการซื้อหุ้นจากบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP จำนวน 156.50 ล้านหุ้น และหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 276,975,500 หุ้น ราคาหุ้น 16.37 บาท

ด้วยสินทรัพย์ทั้งสิ้นกว่า 250,000 ล้านบาท และพนักงาน 6,000 คน ธนาคารธนชาต จึงมีการขยายเครือข่ายสาขาอย่างรวดเร็วมากสุดแห่งหนึ่งของกลุ่มธนาคารในประเทศไทย ด้วยสาขาให้บริการ 150 แห่ง เครื่องทำการธนาคารอัตโนมัติ (ATMs) อีก 260 เครื่องทั่วประเทศ และเป็นผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ครองส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ใหม่มากถึง 24% นอกและให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ผ่านบริษัทในเครือ ทั้งบริการด้านหลักทรัพย์ หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจประกันและธุรกิจเช่าซื้อ

จนมาช่วงปี 2553 ธนาคารธนชาต เข้าซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB มูลค่า 32,673 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) จนทำให้ธนาคารธนชาต กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 47.58% ใน SCIB จากนั้นมีการตั้งโต๊ะเทนเดอร์หุ้น SCIB จากนักลงทุนทั่วไปราคาหุ้นละ 32.50 บาท และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 66.89%

จนสุดท้ายมีการควบรวมกิจการ SCIB มาอยู่ภายใต้ “ธนาคารธนชาต” ในที่สุด และถือเป็นดีลที่ถูกกล่าวขานว่า “ปลาเล็กกินปลาใหญ่” ที่ทำให้ TBANK ก้าวขึ้นอันดับ 5 ของประเทศ (จากอันดับ 8) ของธนาคารไทย และให้บริการทางการเงินที่หลากหลายครบวงจร โดยมีธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย (BNS) ร่วมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กับกลุ่มทุนธนชาต (TCAP)

สัญญาณการถอยทัพของ “ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย (BNS)” เกิดขึ้น หลังจากดีลการควบกิจการระหว่าง

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กับธนาคารธนชาต (TBANK) โดยธนาคารธนาคารสโกเทีย จากเคยเป็นผู้ถือหุ้นกว่า 48.9% ในธนาคารธนชาต แต่ยอมลดสัดส่วนการถือหุ้น TMB เหลือเพียง 5.6% และมีนโยบายชัดว่าจะขายหุ้น TMB ออกทั้งหมดหลังควบรวมกิจการแล้วเสร็จ

นี่ถือเป็นการปิดตำนาน “ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย” ในประเทศไทย หลังจาก “ร่วมหัวจมท้าย” กับกลุ่มทุนธนชาต (TCAP) มาร่วม 40 ปี นับจากนี้ต้องจับตาดูกันต่อว่า “ธนาคารต่างประเทศ” รายใดจะเป็นรายต่อไป..!!

Back to top button