พาราสาวะถี

คงไม่ต้องบอกต่อว่าภาพการแอบลักลอบพบกันของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ วันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ที่ห้องรับรองภายในบน. 6 เมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น บ่งบอกถึงอะไร อธิบายได้ด้วยภาพ รัฐบาลภายในคณะรัฐประหารเมียนมาใช้กำลังสลายการชุมนุมผู้ต่อต้านจนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 18 ราย เช่นเดียวกับการใช้กระสุนยางของตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบราย


อรชุน

คงไม่ต้องบอกต่อว่าภาพการแอบลักลอบพบกันของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ วันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ที่ห้องรับรองภายในบน. 6 เมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น บ่งบอกถึงอะไร อธิบายได้ด้วยภาพ รัฐบาลภายในคณะรัฐประหารเมียนมาใช้กำลังสลายการชุมนุมผู้ต่อต้านจนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 18 ราย เช่นเดียวกับการใช้กระสุนยางของตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบราย

นี่คือคำอธิบายที่เด่นชัดที่สุดของเผด็จการภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งการสืบทอดอำนาจ ที่เมียนมาทหารก็อ้างว่ารัฐประหารตามรัฐธรรมนูญ ส่วนประเทศไทยก็สืบทอดอำนาจโดยรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นมาเองทั้งหมด พร้อมกฎหมายอีกหลายฉบับเพื่อรองรับขบวนการการสืบทอดอำนาจของตัวเอง ดังนั้น เมื่อมีความเคลื่อนไหวต่อต้าน ไม่ว่าจะโดยอำนาจทหารเต็มรูปแบบหรือพวกเผด็จการจำแลงที่ใช้การเลือกตั้งครอบทับภาพปีศาจเผด็จการนั้น คนพวกนี้จึงใช้ความรุนแรงเข้าปราบปราม

ไม่ต้องไปถามอีกว่า ทำไมประเทศไทยที่อ้างตัวว่าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งจึงไม่แสดงท่าทีใด ๆ ต่อสถานการณ์ภายในประเทศเพื่อนบ้านเหมือนอย่างที่คนในประเทศจำนวนไม่น้อย หรือแม้กระทั่งหลายประเทศต้องการอยากให้แสดง เพราะมันเกิดภาวะน้ำท่วมปากในฐานะเผด็จการสืบทอดอำนาจย่อมเข้าใจหัวอกของพวกเผด็จการด้วยกันเอง ส่วนการแอบนัดคุยกันนั้น มีความเห็นจากหลายส่วน ค่อยมานำเสนอในโอกาสต่อไป

สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น บอกไว้แล้วว่า เมื่อไปตีเส้นขีดวงจำกัดให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแกนนำทั้งหลาย บางรายต้องโทษโดยไม่ได้รับการประกันตัว เมื่อเกิดการรวมตัวกันแม้จะมีเป้าหมายอันเป็นเงื่อนไขมาจาก 3 ข้อเรียกร้องตั้งต้นของคณะราษฎรเป็นด้านหลัก แต่เมื่อม็อบไร้แกนนำย่อมนำมาซึ่งการไร้ทิศทางในการควบคุมและยากต่อการที่จะร้องขอความร่วมมือใด ๆ ด้วย เมื่อเกิดการยั่วยุซึ่งต้องยอมรับว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ดำเนินการแบบนั้น ย่อมเกิดภาพอย่างที่เห็น

ประเด็นที่ว่าใครเริ่มก่อนและจำเป็นถึงขั้นที่ต้องใช้กระสุนปลอมไล่ยิงม็อบหรือไม่ อย่าได้ไปถามฝ่ายความมั่นคงเป็นอันขาด เพราะรู้กันอยู่แล้วว่ามีกระบวนการทั้งปฏิบัติการข่าวสารและการดำเนินการกันอย่างไร การไปถามจึงเท่ากับไปช่วยสร้างความชอบธรรมต่อแผนการที่เตรียมการกันไว้ทั้งหมด สิ่งที่สังคมควรช่วยกันคิดคือ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะอ้างข้อกฎหมายแล้วปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะจบลงแบบไหนและเมื่อไหร่อย่างนั้นหรือ

กรณีที่ม็อบไร้แกนนำและความเคลื่อนไหวยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ย่อมส่งผลสะเทือนต่อความเชื่อมั่นของประเทศชาติ และกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ส่วนความยากในการบริหารจัดการเพื่อให้ม็อบอยู่ในความสงบหรือหาแนวทางเจรจาเพื่อให้บ้านเมืองสงบนั้น ยอมรับแต่โดยดีจาก เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ รัฐสภา ด้านหนึ่งในมุมของการหากรรมการเพิ่มในส่วนผู้ชุมนุมเจ้าตัวยอมรับว่ายากเป็นอย่างยิ่ง

เหตุผลคือ เมื่อผู้ชุมนุมไม่มีแกนนำ ทำให้การหาบุคคลเพื่อร่วมเป็นกรรมการยังอยู่ระหว่างการสรรหา เพราะความต้องการของกรรมการคือตัวแทนของผู้ชุมนุม ซึ่งการทำงานของกรรมการพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เก็บข้อมูลและหาทางเจรจา แต่เมื่อฝั่งผู้ชุมนุมไม่มีแกนนำทำให้ไม่มีใครเป็นตัวกลางเชื่อมทำงาน ขนาดคนที่จะเข้ามาไกล่เกลี่ยและหาทางออกให้บ้านเมืองจึงจนปัญญาเช่นนี้ แล้วฝ่ายที่ดูแลความมั่นคงจะจัดการปัญหาได้อย่างไร มันไม่ง่ายเหมือนม็อบจัดตั้งหรือม็อบมีเส้นที่รู้อยู่ว่าเกิดขึ้นมาเพราะอะไร

การปรับคณะรัฐมนตรียิ่งเนิ่นช้าออกไป ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาภายในพรรคการเมืองมากขึ้น และย่อมสร้างความหงุดหงิดหัวใจกับให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจได้อยู่ตลอดเวลา เห็นได้จากพรรคสืบทอดอำนาจที่มีการเข้าชื่อของ 90 ส.ส.ยื่นผ่าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคตีกันไม่ให้ท่านผู้นำไปหาคนนอกมาเสียบรัฐมนตรีแทนโควตารัฐมนตรีสองคนของพรรคที่มีอันกระเด็นตกเก้าอี้เพราะกรรมเก่าจากการเป็นแกนนำกปปส.

ต้องยอมรับกันว่าผลแห่งคดีทำให้ทั้ง ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ เสียความรู้สึกกันอย่างมาก ที่อุตส่าห์เปลี่ยนสีเสื้อเพื่อมาเป็นใหญ่แล้ว แต่กลับต้องมาตกม้าตายด้วยการกระทำของตัวเองทั้งที่เพื่อสร้างให้บางคนเป็นใหญ่ให้หลายคนได้ดิบได้ดี ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่จะมีวลีเด็ดของทั้งสองคน โดยรายแรกถึงกับบอกว่า ไม่คิดว่าจะหนักถึงขนาดนี้” ขณะที่อีกรายให้พ่อแม่รดน้ำล้างซวยพร้อมเปล่งวาจา หมดแรงหมดใจ เพราะสิ่งที่ทำไร้ค่า”

นั่นหมายความว่า ภายใต้การชุมนุมที่มีเส้นระดับบิ๊กนั้น คนเหล่านี้ไม่เชื่อว่าตัวเองจะต้องมาติดคุกติดตะราง กลายเป็นนักโทษที่ต้องสู้คดียาวนาน รวมทั้งส่งผลต่อหน้าที่การงานที่กำลังขึ้นหม้อ ส่วนจะเป็นเรื่องเสร็จนาฆ่าโคถึกหรือไม่ ในทางคดียังต้องใช้เวลาเมื่อไม่ถึงที่สุด ก็ไม่ควรตีโพยตีพายเพราะในขั้นต่อไปอาจไม่เหมือนในชั้นต้นก็ได้ใครจะไปรู้ แต่ที่แน่ ๆ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ เริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่ามีแรงกดดันต่อการเขย่าเก้าอี้เสนาบดีรอบนี้เพียงใด ผ่านการตอบคำถามของนักข่าวทำเนียบฯ

โดยเมื่อถูกถามย้ำประเด็นจะโยกสลับเก้าอี้หรือไม่ คำตอบที่ได้คือ ถามแล้วถามอีก ถามให้เป็นเรื่องจนได้ มีใครจะถามอะไรอีกไหมถามที่สร้างสรรค์” น่าจะเป็นสิ่งบ่งบอกได้ดีว่าสถานการณ์ปรับครม.นั้นเป็นอย่างไร ยิ่งฟาก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ บอกว่าท่านผู้นำยันประชาธิปัตย์ได้โควตาเท่าเดิม ก็เหมือนการตีกันพรรคที่มีข่าวว่าจะขอเก้าอี้เพิ่มไปโดยปริยาย ส่วนการขยับในพรรคสืบทอดอำนาจก็วิ่งกันฝุ่นตลบทั้งพวกที่อยากจะได้ตำแหน่งและพวกที่ต้องการอัพเก้าอี้จากรัฐมนตรีช่วยขึ้นว่าการ ปรับครม.หนนี้จึงไม่ใช่งานง่ายเหมือนที่ผ่านมา เพราะมันอาจเป็นการชี้ชะตารัฐบาลเรือเหล็กด้วยว่าจะไปต่อยาว ๆ หรือจอดไม่ต้องแจว

Back to top button