โพซิชั่นเดิม

*หลายคนอาจงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อเห็นดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,500.92 จุด บวกไป 4.14 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.45 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ระหว่างวันอ่อนตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,487.99 จุด พร้อมกับทำท่าจบรอบเล่นชั่วคราวนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเกมขาโหดที่หลายคนคุ้ยเคยกันเป็นอย่างดี จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปถือโทษโกรธเคืองใครทั้งสิ้น เพราะโลกของการลงทุนมันไม่มีอะไรชัวร์เลยสักเรื่องเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หลายคนอาจงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อเห็นดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,500.92 จุด บวกไป 4.14 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.45 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ระหว่างวันอ่อนตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,487.99 จุด พร้อมกับทำท่าจบรอบเล่นชั่วคราวนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเกมขาโหดที่หลายคนคุ้ยเคยกันเป็นอย่างดี จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปถือโทษโกรธเคืองใครทั้งสิ้น เพราะโลกของการลงทุนมันไม่มีอะไรชัวร์เลยสักเรื่องเจ้าค่ะ

*นั่นหมายความว่า การทยอยรินหุ้นของกองทุนขี้ตืด 176 ล้านบาท ผสมโรงกับปอบผีฟ้าปล่อยของออกมานิดหน่อยราว 100 ล้านบาท ขณะที่แมงเม่าปีกเหล็กก็ทำกำไรเบา ๆ ราว 840 ล้านบาท  โดยฝรั่งตาน้ำข้าวเป็นคนเก็บหุ้นเข้าพอร์ตคนเดียวโดด ๆ  “โมนิก้า” ถือเป็นเกมหุ้นธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน หรือถ้าพูดให้เข้าแก๊ปขึ้นมานิดหนึ่งคือ สลับบทกันเล่นชั่วคราว ซึ่งผู้เล่นแต่ละกลุ่มก็เข้าใจบทบาทของตัวเองกันทั้งนั้นนะจ๊ะ

*สิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ “โมนิก้า” หันไปพิเคราะห์พิจารณาสัญญาณเทคนิครายวันก็พบว่า ทุกอย่างยังอยู่ในโพซิชั่นเดิมเหมือนกับวันก่อน ๆ เส้น 10 วัน และเส้น 25 วัน ยังคงประคองดัชนีได้อย่างยอดเยี่ยม ประกอบกับ “แรงซื้อ” ผสมผสาน “แรงขาย” ออกมาเป็นระลอกตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ทิศทางการเคลื่อนตัวของหุ้นยังอยู่ในรูปแบบฟันปลา และมีแววที่จะแกว่งตัวออกด้านข้างอีกนานเลยทีเดียวนะคะ

*เหมือนกับในรายของ PTT  ยังคงทำตัวเป็นกองหนุนที่ดี ไม่หนีค่ายไปก่อนเวลา “โมนิก้า” ก็มั่นใจเกิน 100% ว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างช้า ๆ ซึ่งเหมือนกับการขยับขึ้นของราคาหุ้นในเที่ยวนี้ เทียบกับราคาหุ้นเมื่อปีที่ผ่านมา แฟนคลับที่เน้นลงทุนระยะยาว น่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ และฟันธงได้ทันทีว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.22 พันล้านบาท  มันเป็นจังหวะของคนที่สายป่านยาวเจ้าค่ะ

*ตรงกันข้ามกับ ICHI จู่ ๆ ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น ทำเอาผู้คนในวงการตลาดหุ้นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ตกลงใครเป็นคนดันหุ้นกันแน่? ในเมื่อมติหลายฝ่ายเห็นพ้องตรงกันว่า หุ้นวิ่งมารับงบมาระยะหนึ่งแล้ว เหตุไฉนหุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.20 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 7.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.82 พันล้านบาทอีกหล่ะจ๊ะ..อิอิอิ

*ส่วนหุ้นความหวังที่ “โมนิก้า” อยากให้มิตรรักแฟนเพลงหันมามองอีกสักนิดในเที่ยวนี้ก็คือ SAWAD  โดยกลุ่มผู้บริหารเริ่มแย้มแผนโตให้ทุกคนเห็นแล้วบางส่วน ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะเป็นตัวช่วยหนุนกำไรในอนาคต แถมได้ยินข่าวแว่ว ๆ มาจากพรายกระซิบว่า โปรเจกต์ที่กำลังคลอดทำเงิน เดี๊ยนถึงมองการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 67 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 6.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.94 พันล้านบาท น่าตามไปดูสุด ๆ นะคะ

*ส่วนในรายของ BEAUTY จะสามารถพลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสได้หรือเปล่า? “โมนิก้า” ขอตอบแบบใจจริงว่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน! เพราะเท่าที่รู้คือ วันนี้ดีกว่าวันก่อนอย่างแน่นอน แต่จะดีกว่าในระดับไหน? ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไป แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้หุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 1.86 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 6.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.41 พันล้านบาทเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 3 เดือน มันน่าจะมีอะไรพิเศษกว่าปกติบ้างแหล่ะ!

*เหมือนกับในรายของ QH อาจทำผลงานไม่ประทับใจในปีก่อน เลยเป็นอุปสรรคต่อการเข้าลงทุนเต็ม ๆ แต่เมื่อพูดถึงแนวโน้มของการปั้นกำไรในปีนี้ “โมนิก้า” ย่อมเล็งเห็นโอกาสในการทำผลงานได้ดีขึ้น (เหมือนลิเวอร์พูลเริ่มคืนฟอร์มเก่ง) จึงไม่แปลกใจที่วานนี้มีแรงซื้อเข้ามาไล่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 2.44 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 191 ล้านบาท เพราะเขาเชื่อกันว่า ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นเจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งประเด็นที่ “โมนิก้า” ชอบแส่มากสุดคงเป็นเรื่องที่ขาเม้าท์ป้องปากซุบซิบนินทากันว่า KWM ไล่ราคาแบบโอเวอร์แอคติ้งสุด ๆ เพราะในมุมของ PE ที่ปาเข้า 40 เท่า เทียบกับราคาในกระดานที่ระดับ 4.14 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 194 ล้านบาท มันไม่มีมุมที่ทำให้เดี๊ยนแนะนำให้แฟนคลับลุยสุดซอยจริง ๆ ยกเว้นเคาะขวาเพื่อพิสูจน์ความไว..อันนี้เชิญลุยกันตามสบายนะคุณพี่!

Back to top button