STEC ได้เมกะโปรเจ็กต์หนุนมากปีหน้าแนะซื้อราคาเป้าหมาย 30 บ.อัพไซด์19%

STEC ถือเป็นหลักทรัพย์ที่เน้นทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่างแท้จริง เราคาดว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์เต็มที่เมื่อวัฏจักรธุรกิจกลับมาเป็นขาขึ้น (up cycle) ในช่วงไตรมาส 4/58 นี้ และตลอดปีหน้าที่ภาครัฐจะมีการเร่งใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก การที่บริษัทมีงบดุลที่มีความแข็งแกร่ง ด้วยฐานะเงินสดสุทธิคิดเป็น 0.8 บาทต่อหุ้น จะทำให้จัดการสั่งซื้อวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า ที่ระดับราคาต่ำไว้ได้ เพื่อควบคุมต้นทุนการก่อสร้าง เช่น เหล็ก เป็นต้น ด้านโอกาสประมูลงานได้สำเร็จ (success ratio) อยู่ที่ 20-25% นอกจากนี้บริษัทกำลังเข้าประมูลงานภาคเอกชนที่คือ โรงไฟฟ้าที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูง ได้แก่ โรงไฟฟ้าบางประกง (1,300 MW) โรงไฟฟ้ากรุงเทพใต้ (1,300 MW) และโรงไฟฟ้าประเภท IPP (5,000 MW) คาดว่าจะทราบผลการประมูลได้ประมาณไตรมาส 1/59


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ย.) ว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC เปิดเผยว่า คาดว่านับจากนี้ไปจะมีข่าวดีหลายประการเกิดขึ้นกับบริษัท และเป็นแรงส่งต่อราคาหุ้นได้ ในประเด็นงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่จะเปิดประมูลเป็นจำนวนมากพอที่จะทำให้ผู้รับเหมาขนาดใหญ่ต่างได้งานกันถ้วนหน้า แม้ราคาหุ้นจะตอบรับไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่กระนั้นก็ตามจะยังมีงานขนาดใหญ่ทยอยประกาศออกมาในระยะนี้ ที่คาดว่าจะกระตุ้นราคาหุ้นไปได้อีก เช่น งานสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 งานมอร์เตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด และรถไฟฟ้าสายสีส้มของ MRT

 นอกจากนี้ทางบริษัทมีมุมมองที่ดีต่อ รมว.คมนาคมท่านใหม่ คือ คุณ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ว่าจะเร่งงานสาธารณูปโภคให้เกิดขึ้นในปีนี้และหน้า เพราะมีประสบการณ์การทำงานที่สภาพัฒน์ฯมาก่อน แม้ว่าแนวโน้มกำไรปีนี้จะลดลง 17%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ที่น้อยลงและมีสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนงานอาคารรัฐสภา แต่คาดว่าปี 59 และ 60 จะเติบโตถึง 23% และ 20% เทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ

STEC ถือเป็นหลักทรัพย์ที่เน้นทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่างแท้จริง เราคาดว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์เต็มที่เมื่อวัฏจักรธุรกิจกลับมาเป็นขาขึ้น (up cycle) ในช่วงไตรมาส 4/58 นี้ และตลอดปีหน้าที่ภาครัฐจะมีการเร่งใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก การที่บริษัทมีงบดุลที่มีความแข็งแกร่ง ด้วยฐานะเงินสดสุทธิคิดเป็น 0.8 บาทต่อหุ้น จะทำให้จัดการสั่งซื้อวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า ที่ระดับราคาต่ำไว้ได้ เพื่อควบคุมต้นทุนการก่อสร้าง เช่น เหล็ก เป็นต้น ด้านโอกาสประมูลงานได้สำเร็จ (success ratio) อยู่ที่ 20-25%

 นอกจากนี้บริษัทกำลังเข้าประมูลงานภาคเอกชนที่คือ โรงไฟฟ้าที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูง ได้แก่ โรงไฟฟ้าบางประกง (1,300 MW) โรงไฟฟ้ากรุงเทพใต้ (1,300 MW) และโรงไฟฟ้าประเภท IPP (5,000 MW) คาดว่าจะทราบผลการประมูลได้ประมาณไตรมาส 1/59

ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิม ถือ มีการปรับราคาพื้นฐานใหม่เป็น 30 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 59 ที่ 29 เท่า ซึ่งเป็นการเลื่อนใช้ P/E ที่ประเมินมูลค่าไปยังปี 59 แทนปี 58 เพื่อสะท้อนปัจจัยบวกจากเมกะโปรเจ็กต์ที่จะเกิดขึ้นมากในปีหน้า ส่วนการที่ใช้ P/E ที่ระดับสูงเป็น 2 SD เพราะมองว่าเมื่อเป็นวัฏจักรขาขึ้น จะมีการซื้อขายที่ระดับ P/E สูงเป็นเรื่องปกติ เช่นปี 56 ที่รัฐบาลประกาศงบสาธารณูปโภคที่ 2 ล้านล้านบาทนั้น STEC เคยไปซื้อขายที่ระดับ 33 เท่ามาแล้ว สำหรับแผนรัฐบาลปัจจุบันจะใช้งบประมาณสาธารณูปโภค 1.9 ล้านล้านบาท ระหว่างปี 2558-2565

 

 

 

 

Back to top button