ลงเพื่อซื้อ ?

* ดูเหมือนประเด็น Sell in May จะกลายเป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ที่นักลงทุนเม้าท์ถึงมากพอ ๆ กับเรื่องของ “วัคซีน” จึงขอทำความเข้าใจเรื่องราวที่ได้เกริ่นนำเมื่อวานนี้สักหน่อย ต่อจากนั้นค่อยลงรายละเอียดที่เกี่ยวกับการจั่วหัว เพื่อทำให้ทุกคนเห็นภาพการลงทุนได้ทะลุปรุโปร่งมากขึ้น เพราะเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นมันเป็นลักษณะของการเล่นเกมชักเย่อไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* ดูเหมือนประเด็น Sell in May จะกลายเป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ที่นักลงทุนเม้าท์ถึงมากพอ ๆ กับเรื่องของ “วัคซีน” จึงขอทำความเข้าใจเรื่องราวที่ได้เกริ่นนำเมื่อวานนี้สักหน่อย ต่อจากนั้นค่อยลงรายละเอียดที่เกี่ยวกับการจั่วหัว เพื่อทำให้ทุกคนเห็นภาพการลงทุนได้ทะลุปรุโปร่งมากขึ้น เพราะเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นมันเป็นลักษณะของการเล่นเกมชักเย่อไงล่ะคะ

* โดยเฉพาะในมุมของการขายหนักในเดือน พ.ค. ก็เป็นวิถีปกติที่ทุกคนได้พบเห็นเป็นประจำ ซึ่งมาจากหลายเหตุผลด้วยกัน อาทิ ขายเมื่อรู้ความจริง ผลงานต่ำกว่าคาด การขึ้นเครื่องหมาย XD ปัจจัยภายในไม่เอื้อ เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว คุมโรคระบาดไม่อยู่ ฯลฯ ล้วนเป็นประเด็นที่ส่งผลโดยตรงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวของตลาดหุ้นไทยในจังหวะนี้ ล้วนเป็นโอกาสทองสำหรับคนที่ถนัดเป็นชาวสวนพะยะค่ะ

* ยิ่งเห็นดัชนีไหลลงมาเรื่อย ๆ จนหลุดแนวรับแรกที่บริเวณ 1,550 จุด ต่อจากนั้นทำท่าจะลงไปทดสอบแนวรับสองตรงบริเวณ 1,520 จุดอยู่รอมร่อ เดชะบุญ!. มีแรงซื้อเข้ามาพยุงดัชนีไว้ก่อน ดัชนีเลยปิดไปที่ระดับ 1,549.22 จุด ลบไป 33.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.27 แสนล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่บีบหัวใจคนเล่นเต็ม ๆ และแรงบีบคั้นดังกล่าวจะอยู่กับตลาดหุ้นไทยไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าการแก้ปัญหาทุกองคาพยพจะเป็นรูปธรรมเจ้าค่ะ

* วันนี้ถึงต้องถามใจผู้เล่นว่า รอบนี้รัฐบาลของ “ลุงตู่” ที่รวบอำนาจทั้งหมดไว้ที่ตัวเองจะทำให้สถานการณ์ “ดีขึ้น” หรือ “แย่ลง” เพราะประเด็นนี้จะเป็นตัวชี้วัดแฟนคลับแต่ละรายควร “เข้าซื้อ” หรือ “ถอยฉาก” เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินความสามารถของตัวเองก่อนเป็นลำดับแรก ต่อจากนั้นค่อยไปดูรายละเอียดของหุ้นเป้าหมายที่คิดจะลงทุน ควบคู่กับสตอรี่ที่คาดจะเกิดขึ้นในอนาคตนะจ๊ะ

* เหมือนกับสถานการณ์ของหุ้นแบงก์ที่วานนี้โดนถล่มยับจนดูสภาพไม่ได้ ล้วนเป็นผลมาจากการระบาดรอบ 3 ซึ่งอาจทำให้มีหนี้เสียพุ่งอีกรอบแบบนี้ไงเล่า! ถึงทำให้แบงก์สีเขียวอย่าง KBANK โดนจัดหนักก่อนใครเพื่อน เพราะพอร์ตสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ทุกคนเลยเกรงว่า ไตรมาส 2 ต้องตั้งสำรองเพิ่ม ซึ่งอาจกดดันผลงานจนพลิกขาดทุน หุ้นเลยทิ้งดิ่งลงมาปิดที่ 126 บาท ลบไป 6 บาท หรือลงไป 4.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.27 พันล้านบาทนะออเจ้า!

* อาการหนักไม่แพ้คนอื่นคงต้องมองไปที่ AOT เพราะถ้ามองในมุมของการเดินทางด้วยสายการบิน เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวให้กลับมามีชีวิตชีวา “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า ต้องรอปีหน้านู้น..นน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้มันสาหัสจริง ๆ และตราบใดที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบทั้งประเทศ ก็อย่าหวังได้ผุดได้เกิดกันอีกเลย เดี๊ยนถึงมองการทรุดตัวลงมาปิดที่ 60 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.61 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ลงอีกเยอะจ้า!

* ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้นอันตราย DELTA ที่วันนี้หายซ่าไปเยอะนั้น ล้วนเป็นผลมาจากสตอรี่ที่เป็นตัวคอยบิ้วด์ไม่ขลังเหมือนเมื่อก่อน วานนี้ถึงโดนถล่มขายแบบรัว จนราคาหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 315 บาท ลบไป 39 บาท หรือลงไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.24 พันล้านบาท น่าจะเป็นการปิดฉากที่เป็นรูปธรรมมากสุด หลังมีเสียงเล่าลือกันว่า ผ่านจุดพีคไปแล้วพะยะค่ะ

* ส่วนรายที่ยังพีคได้อีก “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นขายซอส XO ในฐานะหุ้นที่ปลอดแรงขายต่างชาติ แถมยังมีโตต่อเนื่องในช่วงที่โควิด -19 ยังระบาดหนัก มันเป็นสตอรี่ที่ดึงดูดให้แมงเม่า และวีไอ เข้ามาตะลุมบอลอย่างเมามัน วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 15.70 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 372 ล้านบาทอย่างง่ายดาย ผสานกับพรายกระซิบได้ยินข่าวแว่ว ๆ ว่า อาจมีการปรับเป้าตามผลงานที่ดีขึ้นแบบนี้..น่าสนอ๊ะป่าว ?

* อีกรายที่ผ่านกระบวนการเขย่าหุ้นเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และยังได้ผลดีจากภาครัฐส่งเสริมส่งออกปาล์มยาวจนไปถึงเดือน ก.ย. เพื่อทำให้ราคาอยู่ในระดับสูงต่อไปนั้น “โมนิก้า” คงต้องหันมามองหุ้น AIE อีกสักรอบ! เพื่อทำให้ทุกคนเห็นว่า ผลงานในไตรมาส 2 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 3 น่าจะโดดเด่นเป็นพิเศษ จึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาการยืนปิดที่ 1.98 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 193 ล้านบาท มีนัยขนาดไหน?..ลองไปคิดดูเล่น ๆ เป็นการบ้านนะคะ

Back to top button