SET เดือนเม.ย.ปันผล 2.39% สูงสุดในเอเชีย! พร้อมชูกลุ่มหุ้นเด่น แกร่งกว่าดัชนี

SET เดือนเม.ย.ปันผล 2.39% สูงสุดในเอเชีย! พร้อมชูกลุ่มหุ้นเด่น แกร่งกว่าดัชนี


นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือน เม.ย. 2564 SET Index ปิดที่ 1,583.13 จุด เพิ่มขึ้น 9.2% จากจากสิ้นปี 2563 ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ จากการฟื้นตัวของภาคการส่งออก และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่ทยอยประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

ขณะที่ ณ สิ้นเดือน เม.ย. 64 SET Index ปิดที่ 1,583.13 จุด เพิ่มขึ้น 9.2% จากจากสิ้นปี 63 ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในขณะที่ SET Index ปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้ หลายอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

ส่วนมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 93,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.0% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยใน 4 เดือนแรกปี 64 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,115 ล้านบาท

ด้านผู้ลงทุนในประเทศยังคงมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ 51.6% ของมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งตลาด โดยผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยในเดือน เม.ย. 64 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,446 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนแรกปี 64 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 32,816 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 1 บริษัท และใน mai 2 บริษัท โดยใน 4 เดือนแรกปี 64 SET มีมูลค่าระดมทุน (IPO) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN ทั้งนี้สาเหตุหลักมาจากการเข้าจดทะเบียนของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR

ขณะที่ Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน เม.ย. 64 อยู่ที่ระดับ 19.5 เท่า และ 39.3 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.8 เท่า และ 22.6 เท่าตามลำดับ

สำหรับอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนเม.ย.64 อยู่ที่ระดับ 2.39% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.34%

ขณะที่ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือน เม.ย. 64 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 473,676 สัญญา ลดลง 23.80% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ SET50 Index Futures, Single Stock Futures และ Gold Online Futures

Back to top button