SCGP-OR วิ่งคึก-แวลู่แน่น! ก่อนเข้า FTSE รอบใหม่ มีผล 18 มิ.ย.นี้

SCGP-OR วิ่งคึก-แวลู่แน่น! ก่อนเข้า FTSE รอบใหม่ มีผล 18 มิ.ย.นี้ โดยราคาหุ้น SCGP ณ เวลา 15.55 น. อยู่ที่ 58.25 บาท บวก 0.75บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.30% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.59 พันลบ. ส่วนหุ้น OR ราคาหุ้น ณ เวลา 15.57 น. อยู่ที่ 29.75 บาท บวก 0.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น  0.85% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.07 พันลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(24 พ.ค.2564) ราคาหุ้น SCGP และ OR ปรับตัวขึ้นด้วยมูลค่าซื้อขายที่เข้ามาอย่างหนาแน่น โดยราคาหุ้นบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ณ เวลา 15.55 น. อยู่ที่ 58.25 บาท บวก 0.75บาท หรือเพิ่มขึ้น1.30% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.59 พันล้านบาท ส่วนบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR  ราคาหุ้น ณ เวลา 15.57 น.อยู่ที่ 29.75 บาท บวก 0.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.85% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท

โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า แนะนำหุ้น SCGP และ OR หลังจากที่ได้เป็นหุ้นที่เข้าใหม่ FTSE All World Index โดย SCGP ให้ราคาเป้าหมาย 60 บาท/หุ้น โดยประกาศเข้า FTSE All World Index แล้วในคืนวันศุกร์(21พ.ค.64) ที่ผ่านมา คาดมีเม็ดเงินไหลเข้าราว 75 ล้านเหรียญ และมีผลราคาปิด 18 มิ.ย.นี้ เป็นประเด็นบวกเพิ่มเติม หลังจากเข้า MSCI รอบนี้ (27 พ.ค.)

นอกจากนี้ คาดกำไรเติบโตเด่น +16% CAGR ปี 64-66 อีกทั้งเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดที่ธุรกิจมั่นคงและแข็งแรงมาก และเป็นรายใหญ่สุดในอาเซียน ที่โอกาสเติบโตยังสูงจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้ E-commerce และ Food delivery มากขึ้น รวมถึง การทำ M&A ซึ่งมี Track record ที่ดี

สำหรับ SCGP เป็นผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia มีธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีเงินทุนจำนวนมากสำหรับขยายกำลังการผลิตและเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม จะช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าและตลาดใหม่ๆ โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 2/64 ยังต่อต่อเนื่อง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากฐานต่ำในไตรมาส 2/63 ที่มีปิดโรงงาน

โดยประเมินกำไรปี 64 โต +40%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 9,068 ลบ. ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้จาก SOVI และ Go-pak เต็มปี อีกทั้งยังมี upside ราว 3 บาท/หุ้น จากการเข้าซื้อหุ้น Duy Tan (ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกในเวียดนาม) และ 1 บาท/หุ้น จาก Intan (ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกในอินโดนีเซีย) ที่คาดว่าจะปิดดีลได้ในช่วงกลางปี 64

ส่วน OR แนะ”เก็งกำไร” ถูกนำเข้า FTSE All World Index คาดเม็ดเงิน 90 ล้านเหรียญ มีผลราคาปิด 18 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้ OR เป็นผู้นำในกลุ่มปั๊มน้ำมัน และกลยุทธ์กระจายรายได้และกำไรสุ่ธุรกิจ Non-oil เพิ่มขึ้น แผนงานยังเป็นเชิงรุกทั้งการขยายปั๊ม (รวม EV station) ราว 100 แห่ง และ Non oil (Amazon, Texas chicken ฯลฯ) และโอกาสทำ JV/M&A โดยรวมประเมินกำไรปีนี้ 1 หมื่นล้านบาท +14%

 

Back to top button